นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 6 ปีสำหรับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนที่ลดต่ำกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ในเดือน ม.ค. 2560 โดยการลดลงของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเกิดจากการขาดดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้าย (Capital and financial account) และการแทรกแซงค่าเงินของทางการจีนเป็นหลัก
เป็นที่น่าสังเกตว่า การขาดดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายของจีนคงเป็นผลมาจากการทยอยเพิ่มการลงทุนสินทรัพย์ต่างประเทศของนักลงทุนจีน ไม่ว่าจะเป็น การออกไปลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของภาคธุรกิจจีน การแสวงหาการลงทุนทางเลือก หรือแม้แต่ธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ แนวโน้มตลาดการเงินโลก โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงแนวนโยบาย America First ของประธานาธิบดี Trump ยังเร่งการไหลออกของเงินทุนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากมาตรการดูแลเสถียรภาพค่าเงินที่ทางการจีนปรับใช้มีประสิทธิผลต่อเนื่อง จนทำให้ค่าเงินหยวนและฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศดูมีเสถียรภาพขึ้น ทิศทางการไหลออกของเงินทุนในปีนี้อาจยังคงมีอยู่ แต่จะอยู่ในจังหวะที่ชะลอลง ซึ่งจะส่งผลให้ฐานะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนคาดว่าจะอยู่ที่ราว 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ในสิ้นปี 2560 และทางการจีนคงยังไม่ออกมาตรการดูแลเสถียรภาพค่าเงินในวงกว้างเพิ่มเติม แต่อาจปรับใช้มาตรการที่เจาะจงมากขึ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพให้กับค่าเงินเพื่อไม่ให้เกิดความผันผวนระหว่างปี
อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนของตลาดการเงินทั่วโลกยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแนวนโยบาย America First ที่อาจส่งผลต่อการย้ายฐานการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติออกจากจีน หรือการที่ Fed อาจส่งสัญญาณการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้นและบ่อยครั้งขึ้นนั้น อาจนำไปสู่ความเชื่อมั่นของเงินหยวนจนทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่ามากกว่าที่ทางการประเมินไว้ พร้อมกับการไหลออกของเงินทุนที่กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง ทางการจีนอาจดำเนินมาตรการดูแลเสถียรภาพค่าเงินที่เข้มข้นขึ้นจึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น