เวียดนาม ในฐานะที่เป็นหนึ่งในภูมิภาคเอเชียที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและยังเป็นศูนย์กลางดึงดูดการค้าการลงทุนของภูมิภาค อีกทั้งตลาดผู้บริโภคภายในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง รัฐบาลเวียดนามจึงให้ความสำคัญและเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อมเพื่อรองรับและต่อยอดโมเมนตัมทางเศรษฐกิจของประเทศ ทว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรทางการเงินจำนวนมาก ซึ่งการแปรรูปรัฐวิสาหกิจจึงเป็นอีกแหล่งเงินทุนสำคัญของรัฐบาล
จากแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ปี 2559-2563 มีบางภาคธุรกิจที่มีศักยภาพและน่าสนใจสำหรับการต่อยอด
ของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนจากไทย เพื่อจะได้ประโยชน์จากตลาดภายในประเทศของเวียดนามที่ใหญ่และสังคมเมืองที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินรัฐวิสาหกิจ (SOEs) ที่มีศักยภาพ
จากหลายองค์ประกอบ ได้แก่ ธุรกิจที่ภาครัฐเปิดโอกาสให้นักลงทุนถือหุ้นได้มากกว่าร้อยละ 50 ประกอบกับประโยชน์ทางอ้อมจากการเข้าไปลงทุน (เช่น สัมปทานในการเข้าไปใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
และเครือข่ายการกระจายสินค้า เป็นต้น) รวมถึงปัจจัยทางการตลาดของธุรกิจ โดย SOEs ที่มีศักยภาพ คือ SOEs ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อย่างธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจวัสดุก่อสร้าง (ปูนซีเมนต์) รวมถึงธุรกิจที่เติบโตสอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดภายในประเทศไม่ว่าจะเป็นธุรกิจกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและธุรกิจสื่อสาร
นอกจากนี้ ยังมี SOEs อีกส่วนที่มีความน่าสนใจที่นักลงทุน เช่น ธุรกิจสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ หรือธุรกิจทางด้านการเงิน ที่ในปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติก็สามารถเข้าไปลงทุนเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจนั้นๆ จากการควบรวมกิจการ
อย่างไรก็ดี นักลงทุนต้องพิจารณา SOEs ที่มีศักยภาพ ควบคู่กับเป้าหมายการเข้าไปลงทุนในเวียดนาม เพื่อให้สามารถกำหนดกลยุทธ์ในการเข้าไปลงทุนได้อย่างเหมาะสม โดยในบางกรณี นักลงทุนอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในรัฐวิสาหกิจ แต่เข้าไปถือหุ้นในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจก็เพียงพอสำหรับการเข้าไปใช้ประโยชน์ทางอ้อมของการลงทุน เช่น การเข้าไปใช้ Distribution Network ในธุรกิจกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น