จากข้อมูลตัวชี้วัดเศรษฐกิจล่าสุด เศรษฐกิจจีนยังคงรักษาโมเมนตัมได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่ากิจกรรมเศรษฐกิจภายในประเทศมีสัญญาณชะลอลงเล็กน้อย ทว่าด้านการค้าระหว่างประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยกิจกรรมเศรษฐกิจภายในประเทศ แม้ว่ายังขยายตัวในเกณฑ์ที่ดี แต่ก็มีภาพการชะลอตัวต่อเนื่องของการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและการลงทุน สะท้อนได้จากอัตราการขยายตัวของผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายน ชะลอลงเล็กน้อยมาที่ร้อยละ 6.1 YoY จากอัตราร้อยละ 6.2 YoY ในเดือนตุลาคม โดยเป็นการชะลอลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ในขณะเดียวกันมูลค่าการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรสะสมตั้งแต่ต้นปี (YTD) ก็ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.2 YoY ในเดือนพฤศจิกายนจากร้อยละ 7.3 YoY ในเดือนตุลาคม โดยเป็นการชะลอลงเป็นเดือนที่ห้าติดต่อกัน และเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในปี
ในขณะที่ภาพรวมอุปสงค์ภายในประเทศมีการชะลอลง การส่งออกกลับขยายตัวเร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 12.3 YoY ในเดือนพฤศจิกายน จากร้อยละ 6.9 YoY ในเดือนตุลาคม โดยตัวเลขส่งออกจีนได้รับแรงช่วยจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือทางสหภาพยุโรป ก็ตาม โดยการสำหรับเดือนพฤศจิกายน มูลค่าส่งออกจากจีนไปยังสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 14.3 YoY ในขณะที่มูลค่าส่งออกจากจีนไปยังสหภาพยุโรปขยายตัวร้อยละ 13.2 YoY นอกจากนี้ มูลค่าส่งออกจีนยังได้แรงช่วยจากอุปสงค์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในขาขึ้น และหากมองไปยังช่วงท้ายปี 2560 และต่อไปยังปีหน้าแล้ว การค้าระหว่างประเทศก็จะเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนที่สำคัญที่สุด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้จะเหนือกว่าที่ทางรัฐบาลจีนตั้งเป้าไว้ว่าต้องการให้เศรษฐกิจจีนเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.5 YoY สำหรับปี 2560 และสำหรับปี 2561 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงจากอัตราเติบโตร้อยละ 6.8 YoY ในปีนี้ ไปอยู่ที่ร้อยละ 6.6 YoY ในปี 2561 โดยการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะได้รับแรงขับเคลื่อนจากการส่งออก และจากการลงทุนภาครัฐ แต่การเติบโตดังกล่าวก็จะชะลอลงจากในช่วงปีนี้เนื่องจากทางการน่าจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการปฏิรูปเศรษฐกิจ
การประชุมประจำปีเพื่อจัดทำนโยบายกลางทางเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 18 ถึง 20 ธันวาคม จะเป็นจังหวะให้ผู้กำหนดนโยบายจีนได้วางโครงสำหรับการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างเข้มข้น โดยทางการจีนมีแนวโน้มจะมีมาตรการลดอัตราการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มเติมในปี 2561ในขณะที่ทางด้านการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ หากมองต่อไปในปีหน้าทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าทางการจีนจะเร่งมือปฏิรูปรัฐวิสาหกิจมากขึ้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น