Display mode (Doesn't show in master page preview)

20 มกราคม 2566

เศรษฐกิจไทย

ความท้าทายด้าน ESG ที่ควรจับตามองในปี 2566 (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 3382)

คะแนนเฉลี่ย

        ในปี 2566 ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความกังวลทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและชะงักงัน ส่งผลต่อการดำเนินการด้านความยั่งยืน หรือ ESG ของภาคธุรกิจ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้รวบรวมประเด็นความท้าทายด้าน ESG ที่ภาคธุรกิจควรจับตามองในปี 2566 ดังนี้

  1.  ความท้าทายทางเศรษฐกิจในปี 2566 ที่มีความไม่แน่นอนสูงและมีแนวโน้มชะลอตัว จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก ความผันผวนของราคาพลังงาน และข้อจำกัดในการหาแหล่งเงินทุนจากการก่อหนี้ ส่งผลต่อผลการดำเนินงาน และการตัดสินใจลงทุนด้าน ESG ของภาคธุรกิจ
  2. มาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของไทย (Thailand Taxonomy) ในภาคพลังงานและภาคขนส่ง โดยแบ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามการลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้แก่ เขียว เหลือง และแดง ซึ่งภาคธุรกิจสามารถอ้างอิงเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ต่ำลงได้หากจัดอยู่ในประเภทเขียวหรือเหลือง ในขณะที่กิจการในกลุ่มสีแดงอาจเผชิญกับข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น
  3. แนวโน้มการดำเนินมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรนแดนและร่างกฎหมายว่าด้วยสินค้าปลอดการทำลายป่าไม้ของสหภาพยุโรป การเตรียมใช้ร่างกฎหมาย Clean Competition Act ของสหรัฐฯ รวมทั้งแนวโน้มการผลักดันด้านการเปิดเผยข้อมูล (Disclosure) ที่หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น ถึงแม้ว่าบางพื้นที่ของสหรัฐฯ อาจมีการนำเคมเปญด้านการต่อต้านการดำเนินการด้าน ESG (Anti-ESG Campaign) ผ่านการออกกฎหมายในบางรัฐ แต่อาจเป็นเครื่องมือทางการเมืองมากกว่าการนำมาบังคับใช้จริง

        อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากความท้าทายดังกล่าวที่จะต้องจับตามองแล้ว ประเด็นเรื่องของการพัฒนาและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยีการดักจับ กักเก็บ และใช้ประโยชน์จากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCUS) เทคโนโลยีการผลิตและการใช้เชื้อเพลิง พลังงานหมุนเวียน และพลังงานสะอาด เป็นต้น ที่จะมาเป็นอีกปัจจัยผลักดันให้การดำเนินการด้าน ESG และการบรรลุเป้าหมายทางการลดปัญหาสภาพภูมิอากาศตามแผนงานขององค์กรได้เห็นภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เศรษฐกิจไทย

ESG