Display mode (Doesn't show in master page preview)

14 กุมภาพันธ์ 2567

เศรษฐกิจต่างประเทศ

แม้ว่าเม็ดเงิน FDI ในอาเซียนลดลงในปี 2566 แต่ FDI ในภาคอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียและเวียดนามยังเพิ่มขึ้น ไทยควรเร่งนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุน (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4035)

คะแนนเฉลี่ย

        แม้ว่าเม็ดเงิน FDI ในอาเซียนลดลงในปี 2566  แต่ FDI ในภาคอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียและเวียดนามยังเพิ่มขึ้น ไทยควรเร่งนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุน 

  • นับตั้งแต่เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อินโดนีเซียและเวียดนามเป็นประเทศที่ได้รับอานิสงส์หลักจากการกระจายฐานการผลิตออกจากจีน เมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซียและไทย
  • การลดลงของ FDI ในอาเซียนในปี 2566 เป็นผลพวงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการขึ้นดอกเบี้ยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนออกไปก่อน แต่สำหรับอินโดนีเซียและเวียดนาม FDI ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนประเทศไทย FDI ที่ลดลงเป็นผลมาจากการปิดกิจการของธุรกิจต่างชาติ อาทิ การขายกิจการปั๊ม ESSO ในขณะที่ FDI ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตยังเพิ่มขึ้นในปี 2566
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เวียดนามและอินโดนีเซียยังเป็นแหล่งดึงดูด FDI ในภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญของอาเซียน ในขณะที่ไทยก็ยังพอมีศักยภาพในการดึงดูด FDI ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอยู่บ้าง จึงควรเร่งนโยบายที่เอื้อแก่การลงทุนมากขึ้น

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม