เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 3/2563 ขยายตัวร้อยละ 4.9 (YoY) ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2/2563 ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 3.2 (YoY) โดยยังคงเป็นผลสืบเนื่องจากการทยอยฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะกิจกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายหลังจากที่ทางการจีนได้ออกมาตรการผ่อนคลายการท่องเที่ยวภายในประเทศซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ค. 2563 นอกจากนี้ กิจกรรมการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คำสั่งซื้อที่สูงขึ้นในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งส่งผลต่อความต้องการสินค้าผลิตภัณฑ์ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางแพทย์จากจีนที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง อาทิ อุปกรณ์วัดไข้ ผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัย อีกทั้ง มาตรการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ของหลายประเทศช่วยหนุนความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากจีน
โมเมนตัมข้างต้นจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า เศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 จะยังขยายตัวต่อเนื่องได้สูงกว่าร้อยละ 5.0 (YoY) (บนสมมติฐานไม่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างระลอกสอง) หากแต่ยังคงเป็นอัตราการขยายตัวยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อันเนื่องมาจากภาคการส่งออกของจีนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มสินค้าที่ตอบโจทย์การรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเผชิญความท้าทายจากความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกัน เครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายตัวยังฟื้นตัวได้ไม่สมบูรณ์ อาทิ อัตราการขยายตัวของรายได้สุทธิที่ยังเติบโตช้ากว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ค่อนข้างมากจนอาจยังกดดันการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน
สำหรับเศรษฐกิจจีนปี 2563 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมุมมองต่อภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนตลอดทั้งปี 2563 อยู่ในช่วงร้อยละ 1.0 – 3.0 ต่อปี (ค่ากลางที่ร้อยละ 1.7 ต่อปี) ภายใต้ความเสี่ยงหลากหลายด้านที่จีนยังเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังน่ากังวล หรือประเด็นความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ยังคุกรุ่น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น