การคาดการณ์เกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสองของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กลายเป็นตัวการสำคัญที่สร้างความปั่นป่วนให้กับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ ซึ่งก็ทำให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียและตลาดเกิดใหม่ ต่างก็ต้องแบกรับภาระการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ฯ อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเงินของเอเชียที่ซับซ้อนขึ้นภายใต้กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ อาจทำให้ธนาคารกลางเอเชียหลายแห่งต้องการเครื่องมือเฉพาะมาช่วยรับมือกับการไหลเข้า-ออกของเงินทุนต่างชาติ เพื่อรักษาความเป็นอิสระของนโยบายดอกเบี้ยในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศ
ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางจีนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ก็นับเป็นย่างก้าวสำคัญที่มีความน่าสนใจ และอาจเป็นตัวอย่างของการวางแนวทางเชิงนโยบายการเงินเพื่อช่วยดูแลเสถียรภาพภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการเตรียมมาตรการรองรับความผันผวนของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศสำหรับธนาคารกลางอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียที่อาจต้องเผชิญกับโจทย์ท้าทายจากมาตรการทางการเงินเชิงผ่อนคลายของเฟดในระยะข้างหน้า
ทั้งนี้ แม้คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ตามคาด อย่างไรก็ดี จากประมาณการอัตราเงินเฟ้อของศูนย์วิจัยกสิกรไทย สะท้อนว่า แรงกดดันเงินเฟ้อ โดยเฉพาะการทยอยปรับสูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงรออยู่ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า อาจทำให้ธปท.มีความจำเป็นต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านการดูแลเสถียรภาพทางด้านราคาอันเป็นภารกิจหลักของธปท. ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทที่อาจต้องแบกรับภาระการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของเฟดทำให้การไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเป็นไปอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็อาจสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางเอเชียและธปท.จำต้องพิจารณาใช้มาตรการดูแลการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศเพื่อช่วยดูแลเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน และเพื่อให้ธนาคารกลางเหล่านี้สามารถดำเนินนโยบายดอกเบี้ยได้อย่างมีประสิทธิผลในการดูแลความเสี่ยงเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น