ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
เห็นว่า ผลผลิตทุเรียนในปีนี้
แม้ว่าจะมีมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถึงราว 27 % (จาก 956,605 ตัน ในปี 2562 เทียบกับ
752,760 ตัน ในปี 2561) แต่คาดว่าแรงกดดันต่อราคาที่ชาวสวนทุเรียนจะได้รับจะมีไม่สูงนัก
โดยราคาที่เกษตรกรจำหน่ายได้ในสวน จะอยู่ในระดับสูงเฉลี่ยประมาณ 70- 80 บาท/กก. เนื่องจากได้ปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มผู้คัดแยกบรรจุผลไม้ (ล้ง)
รายใหม่ๆ ที่รับซื้อทุเรียนเพื่อบรรจุกล่อง และจัดส่งไปจำหน่ายตลาดต่างประเทศ
โดยเฉพาะตลาดจีนที่มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเกิดจากความต้องการบริโภคทุเรียนของชาวจีน
ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10-15% ต่อปี
ทำให้เกิดการแข่งขันให้ราคาและรับซื้อทุเรียนแบบเหมาสวนทั้งหมด
และเมื่อหันมามองทางด้านการตลาด
จะพบว่าปกติสัดส่วนการส่งออกทุเรียนของไทยจะอยู่ที่ประมาณ 70-80% ส่วนตลาดในประเทศจะอยู่ที่ 20-30% ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิตในแต่ละปี
สำหรับในปี 2562 นี้ ผลจากปริมาณทุเรียนที่เพิ่มขึ้น
ประกอบกับความต้องการทุเรียนที่เพิ่มสูงในตลาดต่างประเทศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงประเมินว่า การส่งออกทุเรียนของไทย ในปี 2562
นี้ จะอยู่ที่ประมาณ 700,000 ตันเพิ่มขึ้น 32%
เทียบกับปีก่อน ขณะที่เหลือทุเรียนสำหรับการบริโภคในประเทศประมาณ 230,000
ตันเพิ่มขึ้น 11% เทียบกับปีก่อน
สำหรับตลาดทุเรียนในประเทศนั้น จากการสำรวจเบื้องต้นของ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ผู้บริโภค 48% เห็นว่าราคาทุเรียนในปีนี้แพงขึ้น,
37% มองว่ามีราคาเท่าเดิม และมีเพียง 15% ที่เห็นว่าราคาทุเรียนถูกลง
ซึ่งปัจจัยจากราคาทุเรียนที่อยู่ในระดับสูง
ประกอบกับภาคประชาชนมีมุมมองต่อภาวะกำลังซื้อค่อนข้างระมัดระวัง
โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ปานกลางลงมา ส่งผลให้พฤติกรรมการซื้อทุเรียนของคนไทยในปี
2562 อาจไม่คึกคักมากนัก โดยส่วนใหญ่ 44% จะซื้อทุเรียนเท่าเดิม,
32% จะซื้อลดลง และมีเพียง 24% ที่จะซื้อเพิ่มขึ้น
ซึ่งผลจากการสำรวจที่ได้ดังกล่าว
อาจนำมาซึ่งการวางแผนการสั่งซื้อหรือสต็อกทุเรียนของผู้ประกอบการ
ที่จำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทุเรียนที่เกินความต้องการ
#ทุเรียน #ส่งออกทุเรียน
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น