Display mode (Doesn't show in master page preview)

2 ตุลาคม 2568

Econ Digest

ธุรกิจร้านหนังสือปรับตัวรับพฤติกรรมอ่านออนไลน์ส่งผลรายได้ในปี 2025 หดตัวเพียง 4.5%

คะแนนเฉลี่ย
  • ในปี 2024 คนไทยอ่านหนังสือนานขึ้น แต่นิยมการอ่านออนไลน์มากกว่าหนังสือเล่มถึง 100.7 นาที 
  • ราคาหนังสือเล่มสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 4.7% จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มต่อเนื่อง ขณะที่ e-book ราคาถูกกว่าราว 27% ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนลดการซื้อหนังสือเล่มและหันไปอ่าน e-book 
  • รายได้ร้านหนังสือยังหดตัวแต่ชะลอลง โดยปี 2025 คาดลดลงเพียง 4.5% เทียบกับที่เคยหดตัวเฉลี่ย 14% ต่อปี ก่อนโควิด-19 

คนไทยใช้เวลาในการอ่านหนังสือมากขึ้น แต่เน้นการอ่านออนไลน์มากกว่า 
จากผลสำรวจในปี 2024 ไทยอ่านหนังเฉลี่ย 93 นาทีต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 80 นาทีต่อวันในปี 2018 
        อย่างไรก็ตาม เวลาที่ใช้ในการอ่านออนไลน์ยังมากกว่าหนังสือเล่มถึง 100.7 นาที (รูปที่ 1) เนื่องจากการเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลายและสะดวกกว่า ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือพิมพ์และนิยายออนไลน์ รวมไปถึงการอ่านหนังสือในรูปแบบดิจิทัล (e-book) 
        ทั้งนี้ จากผลการสำรวจผู้อ่านหนังสือ พบว่า สัดส่วนผู้ตอบแบบสอบถามที่อ่านหนังสือเล่มมีทิศทางลดลงจาก 98% ในปี 2019 มาเป็น 81% ในปี 2024 ขณะที่ในส่วนของ e-book กลับเพิ่มขึ้นจาก 22% มาเป็น 33% ในช่วงเวลาเดียวกัน (รูปที่ 2) 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ปัจจัยสำคัญที่หนุนการเติบโตของ e-book คือ ราคาที่ถูกกว่าหนังสือเล่มเฉลี่ยราว 27% 
        ราคาหนังสือเล่มมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มกว่า 40% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้ราคากลางต่อเล่มขยับจาก 230 บาทในปี 2020 มาเป็นราว 290 บาทในปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 4.7% ความแตกต่างด้านราคานี้ทำให้ผู้บริโภคจำนวนหนึ่งจำกัดการซื้อหนังสือเล่มลง และหันไปเลือกซื้อ e-book มากขึ้น 
        ทั้งนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปดังกล่าว กดดันให้จำนวนร้านหนังสือลดลงราว 12% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และทำให้รายได้ธุรกิจร้านหนังสือลดลงจากที่เคยอยู่ในระดับ 15 พันล้านบาทในปี 2018 สู่ระดับ 10 พันล้านบาทในปัจจุบัน 

ธุรกิจร้านหนังสือปรับตัว ส่งผลรายได้ลดลงน้อยกว่าช่วงก่อนการระบาดโควิด-19 
        โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า รายได้ร้านหนังสือในปี 2025 จะลดลง 4.5% (รูปที่ 3) จากที่หดตัวสูงถึง 14% ต่อปี ในช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 
        หลังการระบาดของโควิด-19 ผู้ประกอบการในธุรกิจร้านหนังสือมีการปรับแผนดำเนินธุรกิจหลายด้าน เพื่อชะลอการหดตัวของรายได้ ดังนี้ 
  • ขยายช่องทางและสินค้า เพิ่มการขายออนไลน์ ส่งตรงถึงบ้าน และพัฒนา e-book ควบคู่กับการนำหนังสือประเภท มังงะ ที่มักจำหน่ายในช่องทางอื่น มาวางจำหน่ายในร้านเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้อ่านที่กว้างขึ้น 
  • ตอบโจทย์พื้นที่และผู้อ่านเฉพาะกลุ่ม ไม่ขายหนังสือเหมือนกันทุกสาขา ให้แต่ละสาขามีการคัดเลือกหนังสือตามความสนใจของลูกค้าในพื้นที่ เช่น ร้านในย่านมหาวิทยาลัยเน้นหนังสือวิชาการ 
  • สร้างรายได้เสริมในร้าน เปิดคาเฟ่ พื้นที่นั่งอ่าน และการขายสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อเพิ่มรายได้เสริมจากพื้นที่ร้าน ลดความเสี่ยงจากยอดขายหนังสือที่ลดลง 
  • สร้างประสบการณ์ร่วมกับนักอ่านผ่านการจัดกิจกรรมในร้าน สร้าง “พื้นที่ชุมชน” จัดกิจกรรมพบปะนักเขียน และสนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดจากหนังสือ ซึ่งช่วยสร้างความสัมพันธ์และให้ร้านมีบทบาทมากกว่าแค่ขายหนังสืออย่างเดียว 

ความเสี่ยงของธุรกิจร้านหนังสือ 
  • ผู้อ่านรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ที่สั้น กระชับ และเข้าถึงฟรี เช่น TikTok หรือ Podcast ซึ่งอาจแย่งเวลาในการอ่านหนังสือไป 
  • ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบันส่งผลต่อยอดขายหนังสือ โดยเฉพาะในภาวะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนแอ และราคาหนังสือที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคอาจเลือกที่จะลดการใช้จ่ายในการซื้อหนังสือลง 
  • ความสนใจของผู้อ่านแตกย่อยเป็นกลุ่มเฉพาะมากขึ้น ทั้งนิยายวาย นิยายจีนแฟนตาซี หนังสือแนวสร้างแรงบันดาลใจ และหมวดหมู่เฉพาะอื่นๆ ทำให้ร้านหนังสือที่เน้นขายหนังสือทั่วไปดึงดูดลูกค้าได้ยากขึ้น

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest