ที่ผ่านมา ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพทั้งดีเซลและเบนซินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากแรงหนุนของกลไกราคาและการเพิ่มจำนวนของรถที่รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้ำมันที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพจะมีราคาที่ดึงดูดการใช้จากการสนับสนุนโดยภาครัฐ แต่น้ำมันที่ผสมเชื้อเพลิงชีวภาพในปริมาณต่ำกลับเป็นที่นิยมมากกว่าแม้ว่าราคาสูงกว่าก็ตาม โดยสาเหตุที่ผู้ใช้รถมีพฤติกรรมเช่นนี้เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์หรือกังวลว่าจะทำให้อัตราเร่งของเครื่องยนต์ลดลง
จากข้อมูลสถิติพบว่า สัดส่วนของรถที่เติมไบโอดีเซลได้มี 43% ของรถกลุ่มดีเซลทั้งหมด แต่มีผู้เลือกเติมไบโอดีเซลเพียง 2% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน กับสัดส่วนของรถที่สามารถเติมเบนซิน E20 ได้มีถึง 37% ของรถกลุ่มเบนซินทั้งหมด แต่มีเพียง 45% ที่เลือกเติม E20
ดังนั้น การกระตุ้นให้เกิดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอย่างถ้วนทั่วด้วยการสร้างแรงจูงใจจากราคาอาจยังไม่เพียงพอ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้รถจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญและมีส่วนทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน นอกเหนือจากมาตรการของภาครัฐแล้ว เอกชนหรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างค่ายรถยนต์ ที่อาจเข้ามาสร้างแรงจูงใจอื่นที่ไม่ใช่ราคา เช่น การรับประกันเครื่องยนต์ หรือ การพัฒนาเครื่องยนต์ สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพโดยเฉพาะ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ถึงข้อดีของเชื้อเพลิงชีวภาพที่ช่วยลดมลภาวะทางอากาศอย่าง PM 2.5 เป็นต้น
ทั้งนี้ หากคนไทยเติมน้ำมันไบโอดีเซล B10 เพิ่มขึ้นทุกๆ 1% จะทำให้ความต้องการ B10 เพิ่มขึ้นประมาณ 340 ล้านลิตร และหากรถเติมเบนซิน E20 เพิ่มขึ้นทุกๆ 1% จะทำให้ความต้องการ E20 เพิ่มขึ้นราว 60 ล้านลิตร นอกจากส่งผลให้โรงงานผลิตเกิดความประหยัดจากขนาด (Economy of scale) ยังส่งผลดีต่อเกษตรกรในการลดปัญหาผลผลิตพืชพลังงานล้นตลาด พร้อมทัังช่วยพยุงราคาผลผลิตให้มีเสถียรภาพมากขึ้น
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น