Display mode (Doesn't show in master page preview)

10 เมษายน 2568

Econ Digest

จีนยังเผชิญภาวะเงินฝืดหลังเงินเฟ้อจีน มี.ค. 2568 อยู่ที่ -0.1%YoY ติดลบติดต่อกันสองเดือน ...สงครามการค้ารอบใหม่จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อจีน

คะแนนเฉลี่ย
  • เดือนมี.ค.68 เงินเฟ้อจีนติดลบติดต่อกัน 2 เดือน (รูปที่ 1) ได้รับแรงกดดันจากราคาอาหาร ทั้งในส่วนของราคาไข่ และผักสด อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อพื้นฐานกลับมาเป็นบวกสะท้อนว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ทยอยออกมา เช่น โครงการ Trade in เริ่มส่งผลบวกต่อการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยเงินเฟ้อในส่วนของเสื้อผ้า สินค้าในบ้าน ปรับเพิ่มขึ้น (รูปที่ 2) ขณะที่ราคารถยนต์ซึ่งเป็นสินค้าในโครงการ Trade in เริ่มมีสัญญาณชะลอการปรับลดลงเล็กน้อย (รูปที่ 3)
  • แม้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของจีนจะเริ่มส่งผลบวกต่อการใช้จ่ายของครัวเรือน และทางการจีนยังมีแนวโน้มที่จะทยอยออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ แต่คาดว่าผลจากมาตรการจะเข้ามาชดเชยผลกระทบจากสงครามการค้ารอบใหม่ได้เพียงบางส่วน ปัญหาเงินฝืดจะยังเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจจีน มีรายละเอียด ดังนี้

1.    ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนยังคงปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 30 (รูปที่ 1) และในระยะข้างหน้ายังมีทิศทางปรับลดลงต่อจากปัญหาสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่จะยิ่งกดดันปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินในประเทศของจีน

2.    ล่าสุดสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นรวมทั้งหมด 125% ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกจีนไปสหรัฐฯ ราว 50% กดดันให้สินค้าบางส่วนที่เคยถูกส่งออกไปสหรัฐฯ ถูกนำมาระบายในประเทศกดดันราคาสินค้าในจีนให้ยังมีแนวโน้มปรับลดลง

3.    ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังอยู่ในระดับต่ำจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจีนยังกดดันมุมมองเกี่ยวกับรายได้ และการจ้างงาน (รูปที่ 4)


  • เงินเฟ้อจีนปี 2568 มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำกว่า 1% (Bloomberg consensus) โดยยังต้องติดตามความรุนแรงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทางการจีนจะทยอยออกมาเพื่อชดเชยผลกระทบเพิ่มเติม 

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น