o การประชุมลู่เจียจุ่ย (Lujiazui Forum) ที่เป็นการประชุมของผู้นำภาคการเงิน และผู้กำกับดูแลจากทั่วโลกประจำปี 2568 ในวันที่ 18-19 มิ.ย.68 ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเพิ่มบทบาทของสกุลเงินหยวนในเวทีการค้าโลก ซึ่งสะท้อนความต้องการที่จะลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความตีงเครียดของสงครามการค้าและเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และจีน
• นายพาน กงเซิ่น ผู้ว่าธนาคารกลางจีน ระบุว่า จีนเตรียมจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการเงินหยวนดิจิทัลนานาชาติ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันการใช้สกุลเงินหยวนในระดับสากล รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาระบบสกุลเงินระหว่างประเทศแบบพหุขั้ว (Multi-polar currency system) เพื่อลดบทบาทของการพึ่งพาสกุลเงินเดียวอย่างสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
• ทางการจีนเตรียมออกมาตรการอื่น ๆ เพื่อสนับสนุน และพัฒนาภาคการเงินของจีน เช่น การจัดตั้งหน่วยงานรายงานข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลเพื่อปรับปรุงระบบเครดิตทางสังคม (Social Credit System) ของจีน และ การจัดตั้งคลังข้อมูลรายงานธุรกรรมสำหรับตลาดระหว่างธนาคาร เป็นต้น
o ทางการจีนได้ประกาศขยายวงเงินในโครงการ Qualified Domestic Institutional Investor (QDII) ซึ่งเป็นโครงการที่อนุญาตให้นักลงทุนในประเทศจีนที่ได้รับอนุญาตสามารถซื้อสินทรัพย์ต่างประเทศได้ โดยปัจจุบันวงเงินในโครงการ QDII อยู่ที่ 167.79 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (รูปที่ 1) ซึ่งการปรับเพิ่มวงเงินครั้งนี้จะช่วยให้นักลงทุนในประเทศจีนมีโอกาสกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ต่างประเทศได้มากขึ้น และสะท้อนความต้องการเพิ่มบทบาทของเงินหยวนสู่สากล
o ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าทางการจีนจะทยอยเพิ่มบทบาทของเงินหยวนในเวทีการค้าโลก โดยคาดว่าจะมีมาตรการอื่น ๆ ออกมาสนับสนุนการใช้เงินหยวนในเวทีการค้าโลกเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การที่หยวนจะขยับขึ้นมาทดแทนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเป็นสกุลเงินหลักของโลกคาดว่ายังต้องใช้เวลา โดยปัจจุบันสกุลเงินหยวนถูกใช้ในการชำระเงินระหว่างประเทศเป็นลำดับที่ 5 หรือมีสัดส่วนเพียง 3.5% (รูปที่ 2) ขณะที่ข้อมูลจาก IMF ระบุว่าสัดส่วนของเงินหยวนในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ที่เพียง 2.18% (ไตรมาส 4/2567) ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนทางการค้าของสหรัฐฯ รอบใหม่อาจเป็นอีกประเด็นสำคัญที่จะเข้ามาเป็นปัจจัยเร่งในการลดบทบาทของสกุลเงินดอลลาร์
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น