Display mode (Doesn't show in master page preview)

3 ธันวาคม 2564

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (3 ธันวาคม 2564)

คะแนนเฉลี่ย

​​

นลท. รอติดตามไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

- ตลาดหุ้นเอเชียปิดผสมผสาน ยังคงมีแรงซื้อหุ้นคืนในบางตลาด อย่างไรก็ดี ความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของไวรัสโควิด-19 กดดันตลาดหุ้นญี่ปุ่นและจีน ขณะที่จีนมีปัจจัยรอกดดันเพิ่มเติมจากปัญหาการขาดสภาพคล่องของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ส่วนตลาดหุ้นไทยปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง ต่างชาติยังขายสุทธิติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยแม้มีแรงหนุนในหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี และ ICT แต่ก็มีแรงขายหุ้นบิ๊กแคปในกลุ่มแบงก์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ท่องเที่ยว และขนส่ง 
- ด้านตลาดหุ้นยุโรปและอังกฤษปิดลดลงจากความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 โอไมครอน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกถ้วนหน้า แม้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โอมิครอน แต่ตลาดรับรู้ไปมากแล้ว และ ณ ขณะนี้ สหรัฐฯ มีแผนรับมือเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์นี้แล้ว นอกจากนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังมีแรงหนุนจากการลดลงของความเสี่ยงต่อภาวะปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ ได้ทันเส้นตาย หลังจากที่คองเกรสผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวใช้จ่ายได้ถึง 18 ก.พ. 2565 และรอส่งต่อให้ ปธน. ไบเดนลงนาม 
- ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ดีกว่าที่ตลาดคาด หนุนค่าเงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ให้ขยับขึ้น เพราะช่วยตอกย้ำความเป็นไปได้ที่เฟดจะทยอยปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงินมาเป็นคุมเข้มในระยะข้างหน้า ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลง
- ด้านราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตตามแผนเดิมที่ 4 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือนม.ค. ไม่ส่งสัญญาณผลิตเพิ่มไปมากกว่านี้ตามข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ 
- เช้านี้ เงินบาทอ่อนค่าผ่านแนว 33.95 และขยับเข้าใกล้ระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ 
ประเด็นติดตาม: ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และเงินเฟ้อของไทย​

 


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest