คาดหุ้นไทยลุ้นเปิดบวกตามตลาดต่างประเทศ แม้ขาขึ้นยังจำกัดจากการระบาดไวรัสในประเทศที่น่ากังวล
- ปลายสัปดาห์ก่อน ตลาดเอเชียปิดผสมผสาน โดยหุ้นญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ปิดในแดนบวกได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่ออกมาดีและเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น แต่ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับลดลงแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจ เช่น ดัชนี PMI จะออกมาแข็งแกร่งแต่ได้รับปัจจัยกดดันจากความตึงเครียดระหว่างจีนและชาติตะวันตก
- ตลาดหุ้นไทยปิดบวก มีข่าวดีเรื่องวัคซีนโดยทางไฟเซอร์จะมีนำเข้ามาได้ในไตรมาส 3-4 ปีนี้
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกรอตัวเลขการจ้างงานนอกเกษตรของสหรัฐฯ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่กลุ่มทรัพยากรปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกเกษตรออกมาน้อยกว่าคาดทำให้ตลาดมองว่า Fed จะยังไม่คุมเข้มนโยบายการเงินเร็ว ๆ นี้ โดยดัชนี NASDAQ ปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
- ดอลลาร์ฯ อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก ซึ่งหนุนให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ฟื้นกลับมาปิดที่ระดับ 1.58%
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมา 266,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าตลาดคาดไว้ที่ 987,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานปรับเพิ่มขึ้นที่ 6.1% มากกว่าตลาดคาดการณ์ ปัจจัยหลักมาจากการขาดแคลนแรงงาน โดยนายจ้างมีความต้องการจ้างงาน แต่แรงงานที่กลับเข้าทำงานยังไม่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการใช้สิทธิ์สวัสดิการการว่างงาน ขณะที่ รมว.คลังสหรัฐฯ แนะนำให้มีการปรับเพดานหนี้สาธารณะขึ้น
- สศค.ระบุว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ถ้าดำเนินการได้ตามเป้าหมายน่าจะมีเม็ดเงินเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจประมาณ 4 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนให้ GDP ขยับสูงที่เป้าหมายของกระทรวงการคลังที่ 2.8%
ปัจจัยติดตาม: รอติดตามการจัดส่งน้ำมันทางท่อของสหรัฐฯ ที่มีการปิดระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดหลังถูกโจมตีทางไซเบอร์ ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์ฯ ยังอ่อนค่า เงินบาทแข็งค่าผ่านแนว 31.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น