ตลาดเริ่มปรับมุมมองต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และเงินเฟ้อ และกังวลเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น สัปดาห์นี้ต้องติดตามสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
- ถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยืนยันจะต่อสู้กับเงินเฟ้อแบบไม่มีเงื่อนไข แม้จะกระทบเศรษฐกิจ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ PMI เริ่มส่งสัญญาณชะลอลง ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 50.0
- ในสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับบวก ขณะที่ SET index ขยับขึ้นเช่นกัน แม้ต่างชาติจะยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง โดยตลาดหุ้นไทยมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากมาตรการดูแลผลกระทบประชาชนและภาคธุรกิจ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า โดยในส่วนของหุ้นสหรัฐฯ กลุ่มที่โดดเด่นเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive หุ้นแบงก์ และกลุ่มเทคโนโลยี
- Bond yield สหรัฐฯ ระยะมากกว่า 1 ปี ย่อตัวลง ขณะที่ดัชนีเงินดอลลาร์ฯ ร่วงลง เนื่องจากตลาดกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเอเซีย และเงินบาทซึ่งทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปีครึ่งในสัปดาห์ที่แล้ว
- ราคาน้ำมันโลก ปรับลงต่ำสุดในรอบ 1 เดือนกว่าๆ อย่างไรก็ดี กรอบขาลงยังจำกัดเนื่องจากยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากความตึงตัวในฝั่งอุปทาน
- IMF มองสหรัฐฯ อาจสามารถเลี่ยงภาวะถดถอยได้อย่างฉิวเฉียด และปรับลดประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2565 ลงมาที่ 2.9% และ 1.7% ตามลำดับ
- ประเด็นติดตาม: 1) สัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed/ ECB/ BOE จาก Forum ที่จัดโดย ECB 2) ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการ และดัชนีราคา PCE/Core PCE 3) ตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซน 4) ประชุม OPEC+ 5) ตัวเลขการส่งออกของไทย และรายงานเศรษฐกิจการเงินของธปท.
- ในสัปดาห์นี้ ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบเงินบาทที่ 35.25-35.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น