สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
• เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือน แม้สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นหลังภาวะชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มขึ้น 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าและแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 32.53 บาทต่อดอลลาร์ฯ (นับตั้งแต่ 28 ส.ค.) สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิของต่างชาติในตลาดการเงินไทย และแรงขายตามปัจจัยทางเทคนิค หลังจากที่เงินบาทอ่อนค่าผ่านแนวสำคัญทางจิตวิทยาหลายแนวในสัปดาห์นี้ เงินบาทฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้น ๆ ในระหว่างสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายทั้งจากการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด และจากความกังวลในเรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากภาวะการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (Government Shutdown) กินระยะเวลานาน อย่างไรก็ดี กรอบการแข็งค่าของเงินบาทค่อนข้างจำกัด และเงินบาทกลับไปก่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ ๆ มากระตุ้น อนึ่ง เป็นที่น่าสังเกตว่า เงินบาทอ่อนค่าลงในสัปดาห์นี้ แม้ว่าสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียจะขยับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ
• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 6-10 ต.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.00-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของไทย ผลการประชุมกนง. (8 ต.ค.) สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกและฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ การหาข้อสรุปของสภาคองเกรสเรื่องงบประมาณเพื่อลดผลกระทบจาก Government Shutdown ของสหรัฐฯ บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟด
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
• ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวน ก่อนจะพลิกกลับมาปิดบวกช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้ SET Index ปรับตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังดัชนีราคา PCE/Core PCE ของสหรัฐฯ ออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งหนุนโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับมีแรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ดี SET Index ย่อตัวลงในเวลาต่อมาตามแรงขายหุ้นบิ๊กแคป นำโดย หุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากปัจจัยเฉพาะตัว รวมถึงหุ้นบริษัทด้านพลังงานและหุ้นกลุ่มแบงก์หลังข่าวการปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตของบางแบงก์โดย Fitch ทั้งนี้ SET Index พลิกกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วงกลางสัปดาห์ ระหว่างรอติดตามประเด็นที่รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคจากแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่คาด นอกจากนี้ SET Index ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตามทิศทางหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
• สัปดาห์ที่ 6-10 ต.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,270 และ 1,245 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,300 และ 1,315 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. (8 ต.ค.) ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. ของไทย สถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตลอดจนบันทึกการประชุมเฟด
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น