Display mode (Doesn't show in master page preview)

10 พฤษภาคม 2567

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 7-10 พ.ค. 67)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทพลิกแข็งค่าปลายสัปดาห์ หลังอ่อนค่าลงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ตามภาพรวมของสกุลเงินในภูมิภาค นำโดย เงินเยนและเงินหยวน หลังจากที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งสะท้อนแนวโน้มการยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่ระดับสูงเป็นเวลานาน อย่างไรก็ดีเงินบาททยอยฟื้นตัวแข็งค่ากลับมาช่วงท้ายสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงพร้อมกับการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด นอกจากนี้เงินบาทยังมีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกด้วยเช่นกัน
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 13-17 พ.ค. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 36.50-37.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์เงินเยนและราคาทองคำในตลาดโลก ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของยูโรโซน และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเม.ย. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรม


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ท่ามกลางความคาดหวังว่า เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด นอกจากนี้ดัชนีหุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังบริษัทผู้ให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมรายหนึ่งรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี หุ้นไทยทยอยลดช่วงบวกลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ หลังตอบรับประเด็นบวกข้างต้นไปพอสมควรแล้ว โดยแม้จะมีปัจจัยบวกจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการเตรียมนำกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะหนุนให้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจน อนึ่งหุ้นไทยขยับขึ้นเล็กน้อยช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นภูมิภาค
  • สัปดาห์ที่ 13-17 พ.ค. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,360 และ 1,350 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,380 และ 1,390 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ของบจ.ไทย ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเม.ย.ของยูโรโซน ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนเม.ย. ของจีน อาทิ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีกและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น