Display mode (Doesn't show in master page preview)

19 เมษายน 2567

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 17-19 เม.ย. 67)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาททำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนครั้งใหม่ ทั้งนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าตามภาพรวมของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ประกอบกับมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด และท่าทีจากประธานเฟดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ซึ่งหนุนการคาดการณ์ว่า เฟดอาจยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงไปอีกระยะ โดยจะยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยในรอบการประชุมใกล้ๆ นี้  เงินบาทยังคงอ่อนค่าจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ แต่กรอบการอ่อนค่าชะลอลงบางส่วนเพราะมีแรงประคองกลับจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับตลาดในฝั่งเอเชียระมัดระวังมากขึ้น หลังจากที่ทางการสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ตกลงที่จะหารือร่วมกันเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด   
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 22-26 เม.ย. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 36.70-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ข้อมูลการส่งออกเดือนมี.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ในตะวันออกกลาง การเคลื่อนไหวของค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ดัชนีราคา PCE และ Core PCE เดือนมี.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/67 (Advanced) ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซนและ อังกฤษ ผลการประชุม BOJ ตลอดจนการประกาศอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ของธนาคารกลางจีน


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงแรงตั้งแต่วันทำการแรกของสัปดาห์หลังวันหยุดสงกรานต์ โดยเผชิญแรงขายหลักๆ จากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางปัจจัยลบ อาทิ ประเด็นความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ความกังวลเกี่ยวกับการตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับสูงเป็นเวลานานของเฟด หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายส่งสัญญาณว่าไม่จำเป็นต้องรีบลดดอกเบี้ย รวมถึงแรงขายหุ้นกลุ่มการเงิน อาทิ แบงก์และไฟแนนซ์ หลังจากที่มีการทยอยรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ทั้งนี้หุ้นไทยดิ่งลงต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายสัปดาห์และแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี 5 เดือนที่ 1,330.24 จุด สอดคล้องกับทิศทางหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลง หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
  • สัปดาห์ที่ 22-26 เม.ย. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,315 และ 1,300 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,340 และ 1,350 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ของบจ.ไทย ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนมี.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนเม.ย. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ การประชุม BOJ ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนเม.ย. ของจีน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น