Display mode (Doesn't show in master page preview)

21 มีนาคม 2568

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 17-21 มี.ค. 68)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทกลับมาอ่อนค่าตามแรงขายทำกำไรทองคำหลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ และการเคลื่อนไหวเหนือแนว 3,000 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ไม่ได้รับแรงหนุนมากนัก แม้บอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ จะขยับขึ้นในช่วงก่อนการประชุมเฟด อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยอ่อนค่ากลับมาบางส่วนตามจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก หลังจากที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้งในระหว่างสัปดาห์ ประกอบกับมีแรงกดดันด้านอ่อนค่าเพิ่มเติมจากแรงขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ได้รับอานิสงส์จากสัญญาณไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยของเฟด (แม้จะมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลงมาในการประชุม FOMC รอบที่ผ่านมาก็ตาม)   
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 24-28 มี.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.60-34.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ. ของไทย อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนก.พ. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2567 (final) ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนมี.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยปิดบวกตามแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงก์และพลังงาน ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงแรก ก่อนจะทยอยปรับตัวขึ้นจนถึงช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคก่อนการประชุมเฟด ประกอบกับน่าจะมีแรงซื้อคืนหุ้นไทยจากนักลงทุนหลังดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องหลายสัปดาห์ โดยแรงซื้อหลัก ๆ อยู่ในกลุ่มแบงก์ จากความคาดหวังเรื่องเงินปันผลก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งในระหว่างสัปดาห์ก็มีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการประกาศจ่ายเงินปันผลกรณีพิเศษของแบงก์ใหญ่แห่งหนึ่ง รวมถึงกลุ่มพลังงานจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงสั้น ๆ ในเวลาต่อมาตามแรงขายทำกำไรหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นบริษัทด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งและบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่แห่งหนึ่งก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP ตามขั้นตอนของการควบรวมกิจการ ก่อนจะขยับขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์โดยยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่องในกลุ่มแบงก์และพลังงานเข้ามาหนุน
  • สัปดาห์ที่ 24-28 มี.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,165 และ 1,155 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,200 และ 1,210 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนก.พ. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2567 (final) ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนมี.ค. (เบื้องต้น) ของสหรัฐ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ ตลอดจนกำไรบริษัทอุตสาหกรรมเดือนก.พ. ของจีน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น