Display mode (Doesn't show in master page preview)

28 พฤศจิกายน 2568

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 24-28 พ.ย. 68)

คะแนนเฉลี่ย
สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท 
 • เงินบาทแข็งค่า ขณะที่ ตลาดกลับมาคาดว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. นี้ ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ ๆ มาหนุน ประกอบกับตลาดมุ่งความสนใจไปที่สัญญาณของผู้ว่าการ ธปท. ที่สะท้อนว่า ดอกเบี้ยของไทยยังมีโอกาสปรับตัวลงในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าในช่วงต่อมา สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นในเอเชีย ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดกระตุ้นให้ตลาดกลับมามองความเป็นไปได้ที่เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. นี้ เงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ และแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน (นับตั้งแต่ 26 ก.ย.) ที่ 32.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ 
• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 1-5 ธ.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.00-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและบริการเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย.จาก ADP และดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ตลอดจนตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน 

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย 
• ดัชนีหุ้นไทยผันผวนระหว่างสัปดาห์ แต่กลับมาปิดสูงขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย ทั้งนี้ SET Index เคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงแรก ก่อนจะดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมาตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนหน้า หลังเจ้าหน้าที่เฟดระบุว่ายังมีพื้นที่ในการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม นอกจากนี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับการเห็นชอบมาตรการ Thailand FastPass ของภาครัฐเพื่อเร่งรัดการลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปและกลุ่มเทคโนโลยี ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวช่วงปลายปี รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในภาพรวม ปัจจัยลบดังกล่าวกระตุ้นแรงเทขายทำกำไรในหุ้นหลายกลุ่ม นำโดย กลุ่มแบงก์ เทคโนโลยีและพลังงาน ทั้งนี้ แม้ดัชนีหุ้นไทยจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงท้ายสัปดาห์ หลังสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย แต่ก็เป็นการฟื้นตัวได้เพียงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากยังคงขาดปัจจัยใหม่มากระตุ้น 
• สัปดาห์ที่ 1-5 ธ.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,230 และ 1,215 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,265 และ 1,285 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน ยูโรโซนและอังกฤษ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 ของยูโรโซน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น