Display mode (Doesn't show in master page preview)

31 มกราคม 2568

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 27-31 ม.ค. 68)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทแกว่งตัวเป็นกรอบ แต่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์ตามทิศทางเงินหยวนซึ่งมีปัจจัยลบจากข้อมูล PMI ภาคการผลิตของจีนที่ปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 50 ในเดือนม.ค. ประกอบกับมีการเปิดเผยถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการเก็บ Universal Tariffs จากประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ เริ่มต้นที่อัตรา 2.5% และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกเดือน อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยฟื้นตัวแข็งค่ากลับมา ขณะที่ แรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ เริ่มชะลอลง หลังถ้อยแถลงของประธานเฟดสะท้อนมุมมองของเฟดที่ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มชะลอตัว แม้ว่าเฟดจะส่งสัญญาณไม่รีบร้อนที่จะปรับลดดอกเบี้ย หลังการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่กรอบ 4.25-4.50% ในการประชุม 28-29 ม.ค. ที่ผ่านมาก็ตาม เงินบาทรักษาช่วงบวกไว้ได้จนถึงช่วงปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับจังหวะการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและการแข็งค่าของเงินเยน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์/สกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 3-7 ก.พ. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.30-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลการประชุม BOE สถานการณ์เงินทุนต่างชาติ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนม.ค. ของไทย ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน และอังกฤษ ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. ของยูโรโซน


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ตลาดหุ้นไทยปิดลบเป็นสัปดาห์ที่สอง เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามาหนุนตลาด ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายหลักๆ จากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยในช่วงแรกเผชิญแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตามทิศทางหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลง หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวโมเดล AI ของบริษัทจีนซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่า รวมถึงแรงขายหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่และหุ้นผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยาน ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นสั้น ๆ ในเวลาต่อมาตามแรงซื้อของต่างชาติก่อนจะร่วงลงตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด ประกอบกับผลการประชุมเฟดเป็นไปตามตลาดคาด โดยเฟดมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมพร้อมส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงลึกต่อเนื่องในช่วงปลายสัปดาห์สวนทางภาพรวมตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยแตะจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือนครึ่งที่ระดับ 1,310.72 จุด จากแรงขายหุ้นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่ง หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อซื้อกิจการคืน อนึ่งสัปดาห์นี้หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้นสวนทางภาพรวม โดยมีปัจจัยบวกจากการประกาศแผนซื้อคืนหุ้นของแบงก์แห่งหนึ่งในกลุ่ม D-SIBs รวมถึงแรงซื้อเพื่อหวังเงินปันผล
  • สัปดาห์ที่ 3-7 ก.พ. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,300 และ 1,275 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,330 และ 1,345 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนม.ค. 2568 ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ของบจ.ไทย นโยบายของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ การประชุม BOE ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนม.ค. ของยูโรโซน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น