Display mode (Doesn't show in master page preview)

7 พฤศจิกายน 2568

Econ Digest

Food Upcycle: โมเดลลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าอาหารส่วนเกินสำหรับร้านอาหาร เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นได้ถึง 4%

คะแนนเฉลี่ย
โมเดล Food Upcycle ช่วยเพิ่มกำไรสำหรับร้านอาหาร 
        ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าการทำ Food Upcycle จะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นให้ธุรกิจร้านอาหารประมาณ 4% จากเฉลี่ย 31.8% เป็นเฉลี่ย 35.8% จากการลดต้นทุนอาหารส่วนเกินที่เคยต้องทิ้งไป และมีรายได้เพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกิดจากการแปรรูป 
        อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องพิจารณาความคุ้มค่าในการทำ Food Upcycle สำหรับธุรกิจตัวเอง เพราะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากอาหารส่วนเกิน จะมีต้นทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ดังนั้นควรจะต้องพิจารณา “การลดต้นทุนของเสีย” และ “การลงทุนสร้างมูลค่าใหม่” 

โมเดล Food Upcycle คืออะไร? 
        Food Upcycle คือการนำวัตถุดิบเหลือกลับมาใช้ซ้ำ (Recycle) พร้อมเพิ่มมูลค่า (Upcycle) เปลี่ยนสิ่งที่ต้องถูกทิ้ง ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณค่าทั้งในเชิงเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์แบรนด์ และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมในระยะยาวจากการช่วยลดปริมาณขยะอาหาร 
        ตัวอย่างในไทย เช่น แกงโฮะ อาหารของภาคเหนือ ที่นำแกงต่างๆ ที่เหลือจากการทำบุญมารวมกัน แล้วเติมวัตถุดิบอื่นๆ ลงไป เพื่อสร้างเป็นเมนูใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มเป็น 120 – 200 บาทต่อจาน 
ศักยภาพการเติบโตของ Food Upcycle ในไทยและปัจจัยสนับสนุน 
        ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าในช่วงปี 2025 – 2035 มูลค่าตลาด Food Upcycle จะมีศักยภาพเติบโตราว 6.5% ต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 15,929 ล้านบาท ภายในปี 2035 ซึ่งนับว่ามีศักยภาพเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดโลกที่ 5.2% เนื่องจากตลาดไทยยังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา (Developing) ขณะที่ตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐฯ และยุโรป เข้าสู่ภาวะพัฒนาแล้ว (Developed) 

ปัจจัยสนับสนุนศักยภาพตลาด Food Upcycle ได้แก่ 

1. ไทยมีปริมาณขยะอาหารจำนวนมากและมีบางส่วนยังบริโภคได้ คนไทย 1 คนสร้างขยะอาหารสูงถึง 86 กิโลกรัมต่อปี ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากลาว และเกินค่าเฉลี่ยโลก โดยกว่า 40% ของขยะอาหารยังสามารถรับประทานได้ ซึ่งอาจนำมาใช้ทำ Food Upcycle ได้ 

2. การรับรองมาตรฐาน Food Upcycle ระดับสากล ใบรับรอง Upcycled Certified™ จาก Upcycled Food Association (UFA) ช่วยรับรองว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จากการแปรรูปมีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค เนื่องจากผ่านการคัดแยกและจัดการอย่างถูกสุขลักษณะ ช่วยให้ผู้บริโภคจึงมั่นใจว่าไม่ได้กิน “ของเสีย” แต่เป็นวัตถุดิบดีที่ถูกช่วยชีวิตจากการทิ้ง 

3. คนไทยมีพฤติกรรมยอมรับผลิตภัณฑ์จากแนวคิดลดขยะอาหารมากขึ้น ข้อมูลจากรายงาน Voice of the Consumer Survey 2024 โดย PwC Thailand พบว่าผู้บริโภคไทยกว่า 58% เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน และยินดีจ่ายแพงขึ้นเฉลี่ย 11.7% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest