Display mode (Doesn't show in master page preview)

24 มกราคม 2568

Econ Digest

อนาคตของการเงินสีเขียว เมื่อธนาคารสหรัฐฯ ถอนตัวจากกลุ่ม Net Zero

คะแนนเฉลี่ย

        ธนาคารในสหรัฐฯ หลายแห่งประกาศถอนตัวจากกลุ่ม the Net-Zero Banking Alliance (NZBA) ในช่วง 1 เดือนก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประกาศในช่วงหาเสียงว่าจะยกเลิกนโยบายทั้งหมดเกี่ยวกับการ
ลดก๊าซเรือนกระจก (GHG) โดยในวันแรกหลังพิธีสาบานตน (20 ม.ค. 2568) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งประธานาธิบดีถอนตัวจากข้อตกลงปารีส และยกเลิกคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการจำกัดการขุดเจาะปิโตรเลียมทั้งหมด

        ธนาคารหลายแห่งนอกสหรัฐฯ กำลังพิจารณาถอนตัวออกมาด้วยเช่นกัน โดยธนาคารในแคนาดา 5 แห่งได้ประกาศถอนตัว NZBA หลังจากวันพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่ธนาคารในยุโรปกำลังพิจารณาถอนตัวจาก NZBA

        การเข้ามาดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจทำให้สถาบันการเงินต้องลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ โดยในช่วงก่อนนายโดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ได้มีการฟ้องศาลและเสนอกฎหมายต่อต้าน ESG ว่านโยบายลด GHG ของสถาบันการเงินเป็นการเลือกปฏิบัติและขัดขวางการดำเนินธุรกิจอย่างเสรีของอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันและถ่านหิน ซึ่งกฎหมายยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณา ซึ่งรัฐที่มีการฟ้องร้องหรือมีการออกกฎหมายต่อต้าน ESG มีจำนวน 22 รัฐ (รูปที่ 1) ทำให้สถาบันการเงินชั้นนำ มองว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการฟ้องร้องมากขึ้นหากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาดำรงตำแหน่งในช่วง 4 ปีข้างหน้า (2568-2572)

        อย่างไรก็ดีธนาคารที่ออกจากกลุ่ม NZBA จะยังคงสนับสนุนลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เป้าหมายลด GHG เหมือนเดิม แต่อาจมีการปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของลูกค้า ซึ่งล้วนมีบริบทที่แตกต่างกัน โดยนับตั้งแต่ปี 2564 ธนาคาร 6 แห่งในสหรัฐฯ มีการสนับสนุนทางด้านการเงินสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแล้วกว่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (รูปที่ 2) และจะยังคงให้การสนับสนุนต่อ
 
        สำหรับประเทศไทย แม้ธนาคารพาณิชย์ไทยไม่ได้เข้าร่วมในกลุ่ม NZBA ดังเช่นสถาบันการเงินชั้นนำในต่างประเทศ แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ในไทยยังคงต้องดำเนินนโยบายตามแผนการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2608 (ค.ศ. 2065) ประเทศไทยมีแผนลดก๊าซเรือนกระจกที่ให้คำมั่นสัญญาไว้กับสหประชาติว่าจะลด GHG 40% ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) และบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2608 (ค.ศ. 2065) โดยนับตั้งแต่ปี 2565 ธนาคารพาณิชย์เกือบทุกแห่งในไทยมีการตั้งเป้าหมายการลดGHG ที่สอดคล้องกับเป้าหมายดังกล่าว และมีการดำเนินการในแนวทางที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของตนเอง เช่น การปรับเปลี่ยนแนวทางการให้สินเชื่อ รวมไปถึงการสนับสนุนทางด้านการเงินแก่ลูกค้าตามลักษณะของการปล่อย GHG ในแต่ละอุตสาหกรรม

        ถึงแม้ว่าการถอนตัวจากกลุ่ม Net Zero ของกลุ่มธุรกิจบริการด้านการเงินหลายแห่งจะไม่ส่งผลกระทบการดำเนินการเพื่อลด GHG แต่แสดงให้เห็นถึงบริบทที่เปลี่ยนไปตามนโยบายของผู้นำประเทศ ซึ่งอาจทำธุรกิจบริการด้านการเงินทั้งธนาคาร กองทุน ประกัน หรือธุรกิจด้านการเงินอื่น ๆ ที่ดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ หรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ ต้องทบทวนแนวนโยบายด้านการลด GHG เพื่อพร้อมรับนโยบายที่เปลี่ยนไปของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest