• สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% ทั่วโลก ในรายการเหล็กและอลูมิเนียม เซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ ยา และไม้แปรรูป โดยการส่งออกไทยในสินค้ากลุ่มดังกล่าวของไทยมีสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับการส่งออกรวมไปสหรัฐฯ (รูปที่ 2) แต่การส่งออกรถยนต์นั่งขนาดเล็กของไทยไปสหรัฐฯ ในปี 2568 คาดว่าจะหดตัว
• มาตรการภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal tariff) ที่คาดว่าจะประกาศใช้ในเดือนเม.ย. 2568 ซึ่งไทยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกปรับขึ้นภาษีนำเข้า เนื่องจาก 1) ไทยได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ ในระดับสูงเป็นอันดับที่ 11 ในปี 2567 2) ไทยมีอัตราภาษีนำเข้า (MFN) รวมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สูงกว่าสหรัฐฯ โดยอยู่ในระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียน (รูปที่ 3) ขณะที่สินค้าที่ไทยมีอัตราภาษีสูงกว่าสหรัฐฯ มาก ได้แก่ กลุ่มเกษตร อาทิ น้ำมันปาล์ม น้ำตาล และยานยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับการปกป้องในไทย
• อย่างไรก็ตาม ไทยคงต้องเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง เป็นต้น สินค้าพลังงานอย่างน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงอาวุธ ยุทโธปกรณ์ เช่นเดียวกับกรณีที่อินเดียได้เจรจาข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ไปก่อนหน้า (รูปที่ 4)