Display mode (Doesn't show in master page preview)

6 พฤษภาคม 2568

Econ Digest

เงินเฟ้อเดือน เม.ย. 2568 ลดลงครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ที่ -0.22%YoY คาดทั้งปี 2568 อยู่ที่ 0.5%

คะแนนเฉลี่ย
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือนเม.ย. 2568 ลดลงครั้งแรกในรอบ 13 เดือนที่ -0.22%YoY ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.98%YoY เนื่องจาก (รูปที่ 1)
  • ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่ค่าไฟฟ้าปรับลดลงจากปีก่อนหน้า 0.03 บาทต่อหน่วย รวมถึงมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าสำหรับกลุ่มเปราะบางไปจนถึงเดือนเม.ย.2568
  • ราคาสินค้าเกษตรปรับลดลง อาทิ ไข่ไก่ มะนาว และผักชี จากฐานในปี 2567 ที่อยู่ในระดับสูงจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร
  • อย่างไรก็ดี แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบ แต่กว่า 58% ของ รายการสินค้าทั้งหมดที่นำมาคำนวณยังปรับเพิ่มขึ้น เช่น เนื้อสุกร ค่าเช่าบ้าน เป็นต้น ซึ่งสะท้อนว่าไทยยังไม่เผชิญกับภาวะเงินฝืด
  • เมื่อมองไปยังไตรมาสที่ 2/2568 อัตราเงินเฟ้อไทยมีโอกาสเผชิญการติดลบ แต่ยังไม่ถือได้ว่าเข้าสู่สภาวะเงินฝืด เนื่องจากราคาสินค้าและบริการยังไม่ปรับลดลงอย่างเป็นวงกว้าง (Broad-based) และราคาที่ปรับลดลงส่วนใหญ่มาจากฝั่งอุปทาน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก โดยมีรายละเอียดดังนี้
  • มาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพของภาครัฐ โดยค่าไฟฟ้าในช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค. 2568 ลดลงจากปีก่อนหน้า 0.20 บาทต่อหน่วย ราคาน้ำมันดีเซลอาจทยอยปรับลดลง ขณะที่ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์อาจปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ถูกกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ และอุปทานที่เพิ่มขึ้น
  • ราคาสินค้าสินค้าเกษตรปรับลดลง โดยราคาสินค้าเกษตรอาจปรับลดลงจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยกับการเพาะปลูกมากขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า เช่น ราคาผักสด ไข่ไก่
  • ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 อัตราเงินเฟ้อไทยอาจกลับมาอยู่ระดับเป็นบวกเล็กน้อยจากฐานราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในปี 2567 ที่ต่ำ และทั้งปี 2568 คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ที่ 0.5% 
  • อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อาจกระทบภาพรวมเศรษฐกิจผ่านภาคธุรกิจและการจ้างงาน กดดันอุปสงค์ในประเทศให้ชะลอลงอีก รวมถึงยังต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจจะมีผลต่อเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น