Display mode (Doesn't show in master page preview)

16 สิงหาคม 2562

Econ Digest

ประท้วงฮ่องกง...ฉุดส่งออกไทยสูญเสีย 500-900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

คะแนนเฉลี่ย

​​

การประท้วงที่ฮ่องกงลุกลามจนต้องปิดสนามบินนานาชาติ ซึ่งแม้กระทบการขนส่งสินค้าทางอากาศแต่ก็ไม่มีนัยสำคัญเพราะมีสัดส่วนเพียง 1% ของการขนส่งสินค้าทั้งหมดของฮ่องกง และแทบจะไม่มีผลต่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของไทยในภาพรวมเมื่อเทียบกับการขนส่งสินค้าทางเรือที่สำคัญกว่า

 

อย่างไรก็ดี การประท้วงจะยิ่งสร้างความอ่อนไหวให้เศรษฐกิจฮ่องกงในช่วงครึ่งปีหลัง และฉุดให้ทั้งปีเติบโตค่อนข้างต่ำ ฉุดการส่งออกไทยในภาพรวม เพราะฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 5 ของไทย ครองสัดส่วนการส่งออก 4.7% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย ซึ่งจากการประท้วงที่ยังไม่แน่นอนว่าจะจบลงเมื่อใดและมีความเสี่ยงจะรุนแรงขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า อาจทำให้ส่งออกไทยไปฮ่องกงครึ่งปีหลังสูญเสีย 500-900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ทั้งปีส่งออกไทยไปฮ่องกงหดตัวราว 9-12%

 

โดยหากเหตุการณ์ไม่ขยายวงกว้างกว่านี้และยุติโดยเร็ว ผลกระทบต่อส่งออกไทยไปฮ่องกงจะอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยไปฮ่องกงที่อาจอ่อนไหวมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีตามภาวะเศรษฐกิจฮ่องกง แต่หากเหตุการณ์รุนแรงขึ้นจนธุรกิจฮ่องกงหยุดชะงัก การขนส่งทางน้ำติดขัด ผลกระทบต่อการส่งออกไทยจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากสินค้าอุปโภคบริโภคที่ทรุดตัวบวกกับการส่งออกสินค้าขั้นกลางของไทยที่ส่วนใหญ่ใช้ฮ่องกงเป็นทางผ่านไปจีน

 

ทั้งนี้ ในฐานะที่ฮ่องกงเป็นประตูการค้าของจีน การประท้วงดังกล่าวจะส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อฮ่องกงซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจจีน และสั่นคลอนเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อจีน กดดันให้เงินหยวนอ่อนค่าลงอีกสวนทางกับค่าเงินอื่นในภูมิภาคที่แข็งค่าขึ้นโดยเฉพาะเงินบาท ซึ่งท้ายสุดอาจซ้ำเติมการส่งออกของไทยทั้งที่ไปจีนและไปฮ่องกงให้อ่อนไหวอีกระลอกหนึ่ง


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest