Display mode (Doesn't show in master page preview)

17 มิถุนายน 2563

Econ Digest

ครึ่งหลังปี 2563 สินค้าเกษตรเจอ Double Shock!

คะแนนเฉลี่ย

​แม้ประเทศไทยได้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่ผลจากภัยแล้งในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 63 ทำให้น้ำในเขื่อนมีปริมาณน้อย จนสร้างความเสียหายต่อผลผลิตพืชฤดูแล้งอย่างข้าว มันสำปะหลัง และอ้อย ทำให้ภาพรวมผลผลิตลดลง 2.9% ผนวกกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก นำมาซึ่งความเปราะบางต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมาก ยิ่งเป็นปัจจัยฉุดรั้งความต้องการสินค้าเกษตรของไทยจากต่างประเทศให้ลดลง โดยเฉพาะคู่ค้าหลักอย่างจีน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 สถานการณ์สินค้าเกษตรในภาพรวมจะยังประคองตัวไปได้ โดยราคาสินค้าเกษตรขยายตัวได้ราว 3.8% และรายได้เกษตรกรขยายตัวเล็กน้อยที่ 1.4%

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในปีนี้ฝนจะตกน้อยกว่าปกติ 5% แต่ตกมากกว่าปีก่อน ทำให้สภาพอากาศของไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จะเอื้ออำนวยต่อการทำเกษตร จากปริมาณน้ำฝนที่คาดว่าน่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลต่อภาพรวมผลผลิตการเกษตรที่อาจอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะข้าวนาปี แต่ปัจจัยฉุดรั้งสำคัญอย่างโควิด-19 น่าจะยังมีอยู่และสร้างความเปราะบางให้กับเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก จนส่งผลต่อความต้องการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ให้มีแนวโน้มลดลง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 สถานการณ์สินค้าเกษตรอาจให้ภาพที่แย่ลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก โดยราคาสินค้าเกษตรจะได้รับแรงกดดันเป็น Double Shock จากฝั่งของอุปทาน ที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก โดยผลผลิตอาจเพิ่มขึ้นถึง 4.3% ขณะที่ฝั่งของอุปสงค์ โควิด-19 จะฉุดรั้งความต้องการสินค้าเกษตรจากไทย ทำให้คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง ราคาสินค้าเกษตรอาจหดตัวถึง 4.5%  ส่งผลต่อเกษตรกร ที่รายได้อาจหดตัวลง 0.7 % จึงนับเป็นโจทย์ท้าทายของภาครัฐ ที่จะช่วยประคับประคองสถานการณ์ภาคเกษตรของไทยต่อไป

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest