Display mode (Doesn't show in master page preview)

18 กรกฎาคม 2565

Econ Digest

โจทย์แบงก์ไทยครึ่งหลังปี 65 ดูแลลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง ภายใต้สถานการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้น

คะแนนเฉลี่ย

 




​ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า รายได้จากธุรกิจหลักของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปี 65 ยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยซึ่งถูกกดดันจากความเปราะบางของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและผลกระทบจากความผันผวนของตลาดทุนต่อพอร์ตการลงทุน ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อาจขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยตามการเติบโตของสินเชื่อ นำโดยสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งส่งผลทำให้อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย หรือ  NIM มีแนวโน้มขยับขึ้นมาที่ 2.58% จาก 2.55% ในไตรมาสแรก  นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ยังมีการเข้าดูแลประเด็นคุณภาพสินทรัพย์ในเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยการเร่งจัดการปัญหาคุณภาพสินทรัพย์  การขาย NPLs การตัดหนี้สูญ และการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) ของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาสนี้ทรงตัวอยู่ในกรอบ 2.90-2.93% ต่อสินเชื่อรวม ใกล้เคียงกับไตรมาสแรกซึ่งอยู่ที่ 2.93% อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสัญญาณการด้อยลงของคุณภาพสินเชื่อในพอร์ต SMEs และรายย่อย อาทิ สินเชื่อบ้าน บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากภาพรวมรายได้จากการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า กำไรสุทธิของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในไตรมาสที่ 2 นี้ จะอยู่ที่ระดับประมาณ 4.61 หมื่นล้านบาท ลดลง 19.6% เมื่อเทียบกับฐานที่สูงในไตรมาสที่ 2 ปี 64 ซึ่งมีการบันทึกรายการพิเศษกำไรจากเงินลงทุนจากการขายหุ้นในบริษัทย่อยของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง


สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 65 คาดว่า แรงหนุนจากสัญญาณเศรษฐกิจจะช่วยหนุนให้มีการเบิกใช้สินเชื่ออย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง และน่าจะทำให้แรงกดดันต่อรายได้จากธุรกิจหลักของธนาคารพาณิชย์ในส่วนอื่นๆ คลายตัวลงบางส่วน ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับตัวเลขคาดการณ์สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในปี 65 มาที่ 5.0% (กรอบคาดการณ์ใหม่ที่ 4.0-5.5%) จากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือน มี.ค. 65 ที่ 4.5% สำหรับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ไทย อาจยังไม่สะท้อนอานิสงส์จากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเต็มที่ เนื่องจากสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ยังคงอยู่ในระดับสูง และปัญหาของลูกหนี้อีกหลายกลุ่มที่ยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านและยังไม่ได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงอาจทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะแรกของธนาคารพาณิชย์ปรากฏขึ้นในผลิตภัณฑ์สินเชื่อและเงินฝากเพียงบางประเภท สำหรับภาพรวมรายได้จากธุรกิจหลักในช่วงครึ่งหลังของปี 65 นั้น ด้วยข้อจำกัดในการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม และรายได้จากธุรกิจใหม่ที่ยังต้องใช้เวลา ทำให้คาดว่าภาพรวมของกำไรจากการดำเนินงาน (ก่อนการกันสำรองฯ และภาษีเงินได้) ในปี 65 จะอยู่ในกรอบ 4.01-4.03 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่กลับไปสู่ระดับค่าเฉลี่ยในช่วง 3 ปีก่อนวิกฤตโควิด 19

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest