Display mode (Doesn't show in master page preview)

9 มิถุนายน 2568

Econ Digest

เดือน พ.ค. 2568 เงินเฟ้อจีนติดลบติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่สงครามการค้ารอบใหม่จะเพิ่มแรงกดดันทางด้านราคา

คะแนนเฉลี่ย
  • เงินเฟ้อจีนเดือนพ.ค.68 ปรับลดลงอยู่ที่ -0.1%YoY แม้จะมีวันหยุดยาว Golden week ของจีน (1-5 พ.ค.68) แต่เงินเฟ้อในส่วนของภาคบริการที่เพิ่มขึ้นยังไม่สามารถชดเชยแรงกดดันจากการปรับลดลงของราคาอาหาร และราคาสินค้าได้ (รูปที่ 1) ขณะที่ราคาผู้ผลิตยังคงปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 32 อยู่ที่ -3.3%YoY (รูปที่ 2)


  • เงินเฟ้อจีนยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำตลอดทั้งปี 2568 เนื่องจาก 

1.    ผลของมาตรการซื้อของเก่าและของใหม่ (Trade in program) เริ่มส่งผลบวกต่อการจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือนลดลง เนื่องจากประเภทของสินค้าในมาตรการเป็นสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ นอกจากนี้ งบประมาณของรัฐบาลท้องถิ่นในการอุดหนุนโครงการดังกล่าวเริ่มมีจำกัด 

2.    สงครามราคาในบางกลุ่มสินค้า เช่น รถยนต์ไฟฟ้าจะยังกดดันเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ โดยอัตราเงินเฟ้อในส่วนของราคารถยนต์ยังคงปรับลดลง  (รูปที่ 3) โดยล่าสุดแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีนได้ประกาศปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าถึง 22 รุ่นสูงสุดถึง 34% 

3.    สงครามการค้ารอบใหม่จะยิ่งกดดันการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ และระดับราคาสินค้า แม้จะมีการเจรจาตกลงลด Reciprocal tariffs ระหว่างสหรัฐฯ และจีนเมื่อ 12 พ.ค.68 แต่คาดว่าจะเข้ามาช่วยลดลงแรงกดดันได้ในระยะสั้น ขณะที่ภาคการผลิตยังมีแนวโน้มชะลอลงกดดันต่อการจ้างงาน และแนวโน้มการใช้จ่ายในประเทศ

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าความเสี่ยงเรื่องเงินฝืดจะเป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อเศรษฐกิจจีนตลอดทั้งปี 2568 โดยคาดว่าทางการจะมีมาตรการออกมาสนับสนุนให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มเติม แต่ระดับของมาตรการคาดไม่เพียงพอ เนื่องจากระดับรายได้และการจ้างงานได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ารอบใหม่

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น