COVID-19 เศรษฐกิจ CLMV ยังไหว คาดทั้งปีโตเฉลี่ย 3.4%

​การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลเชิงลบต่อเศรษฐกิจ CLMV ผ่านการพึ่งพารายได้จากต่างประเทศในธุรกิจท่องเที่ยวและการส่งออก ซึ่งประเทศที่พึ่งพารายได้จากต่างประเทศมากยิ่งได้รับผลกระทบมาก กัมพูชาได้รับผลกระทบเชิงลบมากที่สุด เนื่องจากพึ่งพารายได้จากต่างประเทศทั้งในธุรกิจท่องเที่ยวและส่งออก คาดว่าเศรษฐกิจกัมพูชาปีนี้จะติดลบ 0.9% ส่วนเวียดนามได้รับผลกระทบปานกลาง เนื่องจากพึ่งพารายได้จากต่างประเทศในภาคการส่งออกเท่านั้น อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบเงินให้เปล่าและการลดภาษี คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้จะยังคงโตได้ที่ระดับ 3.6% สำหรับสปป.ลาว และเมียนมาได้รับผลกระทบเชิงลบน้อยกว่า เนื่องจากไม่พึ่งพารายได้จากต่างประเทศมากนัก คาดว่าปีนี้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสปป.ลาว และเมียนมาจะเติบโตได้ในระดับ 3.9% และ 4.3% ตามลำดับ

แม้เศรษฐกิจ CLMV ปีนี้ จะโตต่ำสุดในรอบ 20 ปี แต่ก็ยังเติบโตได้เฉลี่ยที่ 3.4% และหลังจากนั้นมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยกลับมาโตเฉลี่ยที่ 6.4% ในปี 2564 และ 6.5% ในปี 2565 ดังนั้น ถือเป็นข่าวดีของการส่งออกไทยที่น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในปีหน้า โดยปัจจัยเสี่ยงเพียงอย่างเดียวคือราคาน้ำมันซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทยไปกัมพูชา ลาวและเมียนมา อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลงมาจนถึงจุดต่ำสุดในปีนี้ และจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า จึงมีโอกาสค่อนข้างสูงที่การส่งออกของไทยในตลาด CLMV จะกลับมาขยายตัวได้ในปีหน้า 

สำหรับมูลค่าการส่งออกไทยไป กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ในปีนี้ คาดว่าจะหดตัว 8.9% 7.3% 6.1% และ 13.3% ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงมาก และสำหรับเวียดนาม มูลค่าการส่งออกลดลงมาก เนื่องจากสินค้าส่งออกหลักของไทยในตลาดเวียดนามคือ รถยนต์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคจะเลื่อนการตัดสินใจซื้อเมื่อรายได้ลดลง ส่วนการส่งออกอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันนั้น จัดเป็นกลุ่มที่มูลค่าการส่งออกจะขยายตัวได้ในปีนี้ นอกจากนี้ ปูนซีเมนต์และสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างก็น่าจะยังขยายตัวได้ เพราะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ยังคงดำเนินการตามเดิม