Display mode (Doesn't show in master page preview)

7 เมษายน 2563

Econ Digest

COVID-19 ทั่วโลกร่วมใจทุ่มเม็ดเงินมหาศาล...ประคองเศรษฐกิจพ้นวิกฤติโควิด

คะแนนเฉลี่ย
​            การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังคงส่อเค้ารุนแรงและมีแนวโน้มที่จะยังไม่สามารถควบคุมได้ในระยะอันใกล้ ทำให้เศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงสูงขึ้น และกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ ดังนั้น รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกจึงต่างออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงินและการคลังเพื่อบรรเทาผลกระทบในวงเงินมหาศาล ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว มาตรการการคลังจะเน้นไปที่การช่วยลดภาระรายจ่ายของครัวเรือนและธุรกิจ ตลอดจนการประคองให้ครัวเรือนและธุรกิจยังมีรายได้เข้ามา ในขณะที่มาตรการทางการเงินจะเน้นที่การเสริมสภาพคล่อง เช่น การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และการผ่อนปรนภาระหนี้ 

             สำหรับตัวเลขมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นเพียงวงเงินที่ทางการระบุไว้ ซึ่งบางมาตรการยังไม่มีการเปิดใช้หรืออัดฉีดจริง และเมื่อใช้จริงอาจต่ำกว่าที่ระบุ โดยส่วนหนึ่งเป็นเพียงการรับรองการปล่อยกู้ซึ่งอาจไม่ได้นำออกมาใช้จริงทั้งหมด ขณะที่ มาตรการทางการเงินมักมีวงเงินค่อนข้างสูง แต่เพราะฐานสินทรัพย์ทางการในระบบเศรษฐกิจมีขนาดใหญ่ จึงทำให้ไม่สามารถตีความผลลัพธ์ของมาตรการกระตุ้นจากเพียงตัวเลขได้ อีกทั้ง จำนวนวงเงินอาจจะไม่ได้สะท้อนถึงประสิทธิผลของมาตรการกระตุ้นเสมอไป ทั้งนี้ แม้ว่าในหลายประเทศจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวงเงินที่สูงกว่า 10% ของ GDP แต่ยังคงต้องติดตามประสิทธิผลของมาตรการต่อไป โดยหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น คาดว่าทางการคงพร้อมที่จะออกมาตรการเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า 

             ​โดยสรุป การดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ที่ใช้เม็ดเงินมหาศาลนั้น ท้ายที่สุดแล้วอาจจะไม่ช่วยให้เศรษฐกิจในหลายประเทศพ้นภาวะถดถอย แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เศรษฐกิจหดตัวน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่ไม่มีมาตรการใดๆ มารองรับ และที่สำคัญกว่านั้น มาตรการต่างๆ ที่นำมาใช้ในภาวะเช่นนี้ก็เพื่อช่วยให้กลไกทางเศรษฐกิจยังสามารถดำเนินต่อไปได้


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest