Display mode (Doesn't show in master page preview)

7 มิถุนายน 2564

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (7 มิถุนายน 2564)

คะแนนเฉลี่ย
​​หุ้นไทยลุ้นปรับขึ้น รับข่าวการเริ่มปูพรมฉีควัคซีนในไทย

- สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นส่วนใหญ่ปิดผสมผสาน โดยตลาดญี่ปุ่นปรับตัวลดลง แม้ข้อมูลการบริโภคภาคครัวเรือนจะออกมาดีในเดือนเม.ย.ก็ตาม ขณะที่ ตลาดจีนปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มการเงิน หลังทางการจีนเตรียมปรับลดภาษีอากรแสตมป์ ส่วน ปธน.โจ ไบเดนสั่งห้ามบริษัทจีน 59 แห่งลงทุนในสหรัฐฯ ซึ่งจำกัดการปรับขึ้นของตลาดจีน

 - ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงเล็กน้อยในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยรอการประกาศตัวเลขสหรัฐฯ เหมือนตลาดเอเชียอื่นๆ อย่างไรก็ดี ข่าวการปูพรมฉีดวัคซีน หนุนกลุ่มท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ ขณะที่ หุ้นฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ ปิดบวกในวันศุกร์ หลังนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับเฟด เนื่องจากข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับลดลง

 - ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น ตามปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลง และบอนด์ยีลด์ที่ปรับลดลง

 - รัฐมนตรีคลังจากกลุ่มชาติอุตสาหกรรม G7 ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์เพื่อปฏิรูประบบภาษีโลก เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี และสร้างความยุติธรรมทางภาษีโลก

 - ส่วนเงินเฟ้อไทยเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลง โดยเพิ่มขึ้น 2.44% YoY ขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอลงในช่วงครึ่งปีหลัง จากผลของฐานต่ำที่หมดลงและแรงกดดันด้านอุปสงค์อยู่ในระดับต่ำ โดย KResearch มองเงินเฟ้อทั้งปีที่ 1.1%

 - ประเด็นติดตามสัปดาห์นี้ ได้แก่ 1) การประชุมของ ECB และตัวเลขจีดีพีของยุโรป 2) การส่งออกและเงินเฟ้อของจีน 3) สถานการณ์โควิดและการฉีดวัคซีนในไทย 4) การพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทในสภาฯ - ส่วนค่าเงินบาท มองกรอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้ที่ 31.15-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ

 

Caption Video

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest