คาดตลาดสินทรัพย์เสี่ยงได้แรงหนุนจากจีดีพีสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง
- วานนี้ ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดปรับเพิ่มขึ้นรับสัญญาณการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงไทยที่ได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มเติมหลังเริ่มมีการชะลอการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อ
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบสวนทางตลาดอื่น ๆ ได้รับปัจจัยกดดันจากพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนที่เพิ่มสูงขึ้นในรอบประมาณ 2 สัปดาห์ ขณะที่สหรัฐฯ ดัชนีปิดบวก 3 ตลาด (S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์) ได้รับปัจจัยหนุนจากหลายปัจจัยทั้งผลประกอบการที่ออกมาดีรวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่ง เช่น GDP สหรัฐฯ ไตรมาสแรกของปี เติบโตที่ 6.4% สูงกว่าตลาดคาดการณ์ ซึ่งเป็นอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/2563 สาเหตุหลักมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ไบเดน นอกจากนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้รับปัจจัยบวกต่อเนื่องจากสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของ Fed และสัญญาณกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะกลับมาเปิดปกติ เช่น การเปิดเมือง NY อย่างสมบูรณ์ และการกลับมาเปิดท่าเรือ
- ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีกลับมาสูงกว่า 1.6% แล้วมาจาก GDP ที่ออกมาดีและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเรื่อย ๆ
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดี ซึ่งเหตุผลเดียวกันนี้ช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น
- สำหรับไทย กระทรวงการคลังปรับลด GDP ลงอยู่ที่ 2.3% จาก 2.8% โดยมองว่านักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 2 ล้านคนจาก 5 ล้านคน ขณะที่ปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกอยู่ที่สองหลักที่ 11% โดยมีการระบุเพิ่มเติมว่ากำลังเตรียมการออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
- ปัจจัยติดตามวันนี้ รอดูตัวเลข PCE ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อของ Fed และสถานการณ์ควบคุมการระบาดของไทย รวมถึงติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของธปท. โดยเฉพาะดุลบัญชีเดินสะพัดที่จะมีผลต่อค่าเงินบาทของไทย
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น