Display mode (Doesn't show in master page preview)

30 กันยายน 2564

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (30 กันยายน 2564)

คะแนนเฉลี่ย


คาดตลาดหุ้นเอเชียมีกรอบขาขึ้นจำกัด ขณะที่นักลงทุนรอติดตาม PMI และปัญหาบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีน และประเด็นการคลังของสหรัฐฯ

- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดในแดนลบ ยังกังวลกับความเสี่ยงเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จากประธานเฟดที่มองว่าสูงกว่าคาด รวมถึงปัญหาบริษัทอสังหาริมทรัพย์และวิกฤตพลังงานในจีน ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์ทยอยปรับลดจีดีพีจีนลง
- บริษัทอสังหาริมทรัพย์ Evergrande น่าจะผิดนัดชำระดอกเบี้ยกว่า 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ วานนี้ แม้บริษัทเตรียมระดมสภาพคล่อง อาทิ จากการขายหุ้นธนาคารแห่งหนึ่งที่มีในมือ แต่เม็ดเงินส่วนนี้ก็มีเงื่อนไขว่าต้องเอาไปชำระคืนหนี้ของธนาคาร ขณะที่ ธนาคารกลางหลายชาติ อาทิ สหรัฐฯ ฮ่องกง และสิงคโปร์ เรียกสถาบันการเงินเข้าชี้แจงความเชื่อมโยงกับบริษัทดังกล่าวของจีน ด้านธนาคารกลางจีนยังคงอัดฉีดสภาพคล่องผ่านตลาดเงินระยะสั้นติดต่อกันเป็นวันที่ 9
- ญี่ปุ่นได้หัวหน้าพรรค LDP คนใหม่ ซึ่งรอเสนอชื่อเลือกตั้งเป็นนายกฯ คนถัดไปในต้นสัปดาห์หน้า โดยนายกฯ ใหม่ถูกคาดหวังว่า จะชูนโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อเร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจ 
- ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย ท่ามกลางการที่ กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายและคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ พร้อมมองแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากความก้าวหน้าวัคซีน
- ตลาดสหรัฐฯ ปิดปะปน โดยยังถูกกดดันจากปัญหาเพดานหนี้ แม้บอนด์ยีลด์จะปรับตัวลดลง
- ดัชนีเงินดอลลาร์ฯ ปรับขึ้น ตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีและสัญญาณที่อาจจะคุมเข้มนโยบายของเฟด ขณะที่ ราคาทองคำปรับลดลง
- ราคาน้ำมันขยับลงเล็กน้อย หลังรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
- เงินบาทเช้านี้กลับมาอ่อนค่า แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 4 ปีครั้งใหม่ที่ 33.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ
- ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ 1) จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยที่อยู่ในระดับเกิน 1 หมื่นรายต่อวันติดต่อกันเป็นวันที่สอง 2) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ 3) การผ่านแผนอนุมัติงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยง Government Shutdown และการหาบทสรุปเพื่อยกเพดานหนี้เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ (Default) ที่อาจจะเพิ่มขึ้นในเดือนหน้า​

 


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest