Display mode (Doesn't show in master page preview)

13 มกราคม 2565

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (13 มกราคม 2565)

คะแนนเฉลี่ย

​ตลาดหุ้นลุ้นบวกต่อ ตามตลาดต่างประเทศและการคาดการณ์ว่า แม้เฟดจะคุมเข้มแต่จะไม่มากไปกว่าที่ตลาดคาด และจะไม่กระทบเศรษฐกิจ

-  ตลาดหุ้นส่วนใหญ่กลับมาอยู่ในแดนบวกเมื่อวานนี้ ทั้งฝั่งเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากการที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดสะท้อนว่าการขึ้นดอกเบี้ยเฟดจะไม่กระทบเศรษฐกิจ โดยตลาดคาดการณ์ว่าปีนี้ เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 3-4 ครั้ง หลังจบกระบวนการลดวงเงิน QE แล้ว
- ด้านข้อมูลเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.ของสหรัฐฯ ออกมาสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของตลาด โดยเพิ่มขึ้นแตะ 7% YoY สูงสุดในรอบ 39.5 ปี สวนทางกับข้อมูลเงินเฟ้อจีนชะลอลงในเดือน ธ.ค. ซึ่งชี้ว่า PBOC สามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินได้อีก
- ตลาดหุ้นไทยปิดบวกวานนี้ตามตลาดเอเชีย โดยนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ทำให้มีแรงหนุนเข้ามาในหุ้นกลุ่ม Big Cap อาทิ พลังงาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ท่องเที่ยว ขนส่ง แบงก์ ไฟแนนซ์
- บอนด์ยีลด์ระยะ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับลดลง เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ออกมาแม้จะเป็นตัวเลขที่สูง แต่ก็ยังสอดคล้องกับที่ตลาดคาด ขณะที่ราคาน้ำมันทั้งสัญญา WTI และ Brent เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยนักวิเคราะห์ในตลาดน้ำมันบางส่วนเริ่มมองว่า ราคาน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ฯ ภายในไตรมาส 1/2565
- ราคาทองคำ (สัญญา COMEX) ปิดสูงสุดนับตั้งแต่เปิดปี 2565 เป็นต้นมา สวนทางกับเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าลง
- KResearch เปิดเผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน (KR-ECI) เดือนธ.ค.64 ที่ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากยังกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของราคาอาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่ มองไปข้างหน้า ราคาสินค้าแพง และโอมิครอนที่มีความไม่แน่นอนสูง จะยังกดดันภาวะการครองชีพของครัวเรือน ทำให้ภาครัฐอาจต้องออกมาตรการดูแลเพิ่มเติม
- ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ สถานการณ์โควิดที่ผู้ติดเชื้อใหม่ยังสูงกว่าผู้ที่หายป่วยกลับบ้าน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ PPI ตลอดจนถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด


 
 

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest