- สัปดาห์ที่ผ่านมา Research: วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจรายสัปดาห์ | 14 มี.ค.2565
ตลาดการเงินสัปดาห์นี้รอติดตามวิกฤตยูเครนและผลการประชุมเฟด...สินทรัพย์เสี่ยงอาจถูกกดดันต่อ
- สินทรัพย์เสี่ยงในสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดดันจาก 2 เรื่องหลักคือ 1.) วิกฤติรัสเซียและยูเครนที่มีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง 2.) เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนก.พ. ที่ออกมาสูงสุดในรอบ 40 ปี ซึ่งจะกดดันเฟดให้เริ่มวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นในการประชุม FOMC ในวันที่ 15-16 มี.ค. นี้
- ตลาดหุ้นเอเชีย และสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงถ้วนหน้า ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย รวมถึงแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด หลังตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นจีนทยอยลดช่วงติดลบบางส่วนช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ หลังทางการจีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อรักษาอัตราการเติบโตใกล้เคียงเป้าหมายที่ 5.5% ด้านดัชนีหุ้นไทยแม้ปิดติดลบ แต่ก็น้อยกว่าตลาดเอเชียอื่นๆ เนื่องจากนักลงทุนสถาบันและต่างชาติกลับมาช้อนซื้อหุ้นคืน โดยเฉพาะหุ้นบิ๊กแคป
- การเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนรอบล่าสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลการเจรจาออกมาล้มหลว ขณะที่สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และประเทศอื่นๆ ออกมาตรการตอบโต้รัสเซียอย่างต่อเนื่อง โดยหลายประเทศมีการประกาศระงับการนำเข้าแก๊สธรรมชาติและน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี แต่ราคาน้ำมันยังมีทิศทางผันผวน และถูกเทขายในช่วงต่อมา ทำให้ภาพรวมราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่แล้ว ย่อตัวลง 5.5% (WTI) และ Brent (4.6%) อย่างไรก็ดี คาดว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะยังคงสูงขึ้นจากภาวะอุปทานตึงตัว และวิกฤตยูเครน ซึ่งอาจเห็น new high ในช่วงหลังจากนี้
- ราคาทองคำขยับขึ้นเหนือแนว 2,000 แต่ถูกขายทำกำไรกลับลงมาปิดที่ 1,985 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ หลังเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปีขยับขึ้นไปที่ระดับ 2.00% รับกระแสการคาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ 0.25% ไปอยู่ที่กรอบ 0.25-0.50% จาก 0.00-0.25% ในปัจจุบัน
- ปัจจัยติดตามสัปดาห์นี้ : 1) ผลการประชุมเฟด, BoE และ BoJ และ 2) สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียยูเครน
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น