จีน
ตลาดตราสารหนี้ ESG จีนอยู่ในทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมประกาศรายละเอียด Green Bond รุ่นแรกในลอนดอน จีนมียอดคงค้างตราสารหนี้ ESG 295.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมียอดตราสารหนี้ออกใหม่ในเดือน มี.ค. 2025 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยราวครึ่งหนึ่งมาจากธุรกิจภาคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2025 รัฐบาลจีนประกาศแผนออก Green Bond สกุลเงินหยวน รุ่นแรกที่จะจำหน่ายในต่างประเทศ ณ ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 0.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปลงทุนในโครงการสีเขียวภายใต้ Sovereign Green Bond Framework ใหม่ของจีน
สหรัฐฯ
การออกตราสารหนี้ ESG ใหม่ในสหรัฐฯ ยังคงหดตัวอย่างรุนแรง จากแนวนโยบายของทรัมป์ โดยมียอดออกใหม่เพียง 0.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือน มี.ค. 2025 น้อยกว่าราว 10 เท่าจาก มี.ค. 2024 ที่ออกใหม่ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยอดตราสารหนี้ ESG ใหม่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม เนื่องจากทรัมป์ต่อต้าน ESG และขึ้นภาษีทางการค้า สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลให้ยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG อยู่ที่ 280.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ไทย
ยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG ไทยทรงตัว แต่จะได้ผลดีบ้างจากกองทุน Thai ESGX รวมทั้งการผิดนัดชำระหนี้และต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG ไทยทรงตัวที่ 25.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2025 ครม. มีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุน Thai ESGX ที่เน้นการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ของบริษัทที่ผ่านการประเมิน ESG มากกว่า 80% ของ NAV ประกอบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น หลังไม่มีข่าวบริษัทใหญ่ผิดนัดชำระหนี้เพิ่มเติม และ กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้การออกตราสารหนี้ทั่วไปและ ESG ปรับเพิ่มขึ้นบ้างในระยะถัดไป
แนวโน้มในระยะข้างหน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในระยะข้างหน้า ตลาดตราสารหนี้ ESG จีนและไทยจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ จะยังคงหดตัวรุนแรง
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น