Display mode (Doesn't show in master page preview)

10 เมษายน 2568

Econ Digest

ทรัมป์ขึ้นภาษีการค้า ฉุดตลาด ESG

คะแนนเฉลี่ย

จีน
        ตลาดตราสารหนี้ ESG จีนอยู่ในทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมประกาศรายละเอียด Green Bond รุ่นแรกในลอนดอน จีนมียอดคงค้างตราสารหนี้ ESG 295.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมียอดตราสารหนี้ออกใหม่ในเดือน มี.ค. 2025 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยราวครึ่งหนึ่งมาจากธุรกิจภาคอุตสาหกรรม
        ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2025 รัฐบาลจีนประกาศแผนออก Green Bond   สกุลเงินหยวน รุ่นแรกที่จะจำหน่ายในต่างประเทศ ณ ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 0.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปลงทุนในโครงการสีเขียวภายใต้ Sovereign Green Bond Framework ใหม่ของจีน

สหรัฐฯ
        การออกตราสารหนี้ ESG ใหม่ในสหรัฐฯ ยังคงหดตัวอย่างรุนแรง  จากแนวนโยบายของทรัมป์ โดยมียอดออกใหม่เพียง 0.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือน มี.ค. 2025   น้อยกว่าราว 10 เท่าจาก มี.ค. 2024 ที่ออกใหม่ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
        ยอดตราสารหนี้ ESG ใหม่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม เนื่องจากทรัมป์ต่อต้าน ESG และขึ้นภาษีทางการค้า สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลให้ยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG อยู่ที่ 280.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ไทย
        ยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG ไทยทรงตัว แต่จะได้ผลดีบ้างจากกองทุน Thai ESGX รวมทั้งการผิดนัดชำระหนี้และต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG ไทยทรงตัวที่ 25.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
        โดยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2025 ครม. มีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุน Thai ESGX ที่เน้นการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ของบริษัทที่ผ่านการประเมิน ESG มากกว่า 80% ของ NAV ประกอบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น หลังไม่มีข่าวบริษัทใหญ่ผิดนัดชำระหนี้เพิ่มเติม และ กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้การออกตราสารหนี้ทั่วไปและ ESG ปรับเพิ่มขึ้นบ้างในระยะถัดไป

แนวโน้มในระยะข้างหน้า
    ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในระยะข้างหน้า ตลาดตราสารหนี้ ESG จีนและไทยจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ จะยังคงหดตัวรุนแรง 

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest

ESG