Display mode (Doesn't show in master page preview)

27 สิงหาคม 2567

Econ Digest

ส่งออกทองคำหนุนส่งออกไทยเดือน ก.ค. 67 โตกว่าคาดที่ 15.2% YoY

คะแนนเฉลี่ย

        การส่งออกไทยในเดือนก.ค.67 ขยายตัว 15.2%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 7.0%YoY โดยเป็นผลของฐานที่ต่ำในเดือนก.ค.66 อาทิ การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปที่ลดลงตามราคาของตลาดโลกในขณะนั้น ประกอบกับการส่งออกไทยในเดือนก.ค.67 ได้รับปัจจัยหนุนสำคัญจากการส่งออกทองคำที่ขยายตัวถึง 434.1%YoY จากปัจจัยด้านปริมาณและราคา ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังมีอยู่และธนาคารกลางหลักโดยเฉพาะสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยในระยะอันใกล้ หากหักทองคำออก การส่งออกของไทยเดือนก.ค. 67 ขยายตัวที่ 11.0% (รูปที่ 1)
นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลายตัวยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง ได้แก่ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ และ Hard Disk Drive ขณะที่การส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบกลับมาหดตัวในเดือนนี้ที่ -12.8%YoY โดยหดตัวในตลาดส่วนใหญ่ เช่น ออสเตรเลีย และอาเซียน อาทิ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น (รูปที่ 2)

        อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าการส่งออกไทยจะขยายตัวได้สูงในเดือนก.ค.67 แต่ภาพการส่งออกไทยยังมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าอ่อนแอลง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยในเดือนก.ค. และส.ค.67 เกือบทั้งหมดอยู่ระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งอาจเป็นปัจจัยลบต่อการส่งออกสินค้าไทยในระยะข้างหน้า (รูปที่ 3)

        นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกดดันจากความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ลดลง อีกทั้ง ปัจจัยเสี่ยงเชิงลบที่เพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนของสภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตสินค้าเกษตรได้รับความเสียหาย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการภาพรวมการส่งออกไทยในปี 2567 ขยายตัวที่ 1.5% แต่ก็มีโอกาสมากขึ้นที่การส่งออกไทยจะขยายตัวได้มากกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะหากการส่งออกทองคำยังขยายตัวในอัตราที่สูง

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น