Display mode (Doesn't show in master page preview)

24 มีนาคม 2563

Econ Digest

ส่งออก ก.พ. 63 หดตัว 4.5% “คาดทั้งปี หดตัว 5.6%”

คะแนนเฉลี่ย

​          การส่งออกสินค้าไทยในเดือน ก.พ. 2563 มีมูลค่า 20,642 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว 4.5%
เมื่อเทียบกับปีก่อน น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะหดตัว 7.4% โดยส่วนใหญ่เป็นผลของปัจจัยชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกทองคำที่โตสูงต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 2 (ขยายตัว 178.4%) จากความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ไวรัส COVID-19 ระบาดเป็นวงกว้างนอกประเทศจีน ซึ่งเพิ่มเติมความเสี่ยงให้แก่เศรษฐกิจโลก ทั้งนี้หากหักมูลค่าส่งออกทองคำแล้ว การส่งออกสินค้าไทยเดือน ก.พ. 2563 หดตัวที่ 8.9%

           อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าไทยที่หดตัวในเดือน ก.พ. 2563 ส่วนหนึ่งยังเป็นผลของฐานที่สูงจากการเหลื่อมเดือนของการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่นำเข้ามาฝึกร่วมผสมทางทหารประจำปีกลับคืนไปยังสหรัฐฯ กล่าวคือ ในปี 2562 มีการนำเข้าอาวุธในเดือน ม.ค. และส่งคืนเดือน ก.พ. แต่ในปี 2563 มีการนำเข้าอาวุธในเดือน ก.พ. และคาดว่าจะส่งคืนในเดือน มี.ค.

            ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 2563 จากเดิมที่หดตัว 1.0% มาเป็นหดตัว 5.6% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงมาก ขึ้นจากทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ทวีความรุนแรง ลากยาว และขยายเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานการผลิตโลกอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ แนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกที่ร่วงลงมาอยู่ในระดับ 20-30 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลในเดือน มี.ค. 2563 จากการปรับลดราคาน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียและอุปสงค์การใช้น้ำมันโลกที่ลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 คาดว่า จะกระทบต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันดิบ ไม่ว่าจะเป็น เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติกและน้ำมันสำเร็จรูปให้ปรับตัวลดลง

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest