Display mode (Doesn't show in master page preview)

28 มกราคม 2563

Econ Digest

ส่งออกไทยปี 62 หดตัว 2.65% คาด...ปีนี้ลบต่อเนื่อง ความเสี่ยงหลักยังอยู่ที่ค่าเงินบาท และ เศรษฐกิจโลก

คะแนนเฉลี่ย
​​           มูลค่ารวมการส่งออกสินค้าไทยปี 2562 อยู่ที่ 246,244.5 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว 2.65% เทียบกับปี 2561 ขณะที่มูลค่ารวมการนำเข้าสินค้าไทยปี 2562 อยู่ที่ 236,639.9 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว 4.66% เทียบกับปี 2561 ทำให้ไทยเกินดุลการค้าระหว่างประเทศ 9,604.6 ล้านดอลลาร์ฯ นับเป็นการเกินดุลการค้าติดต่อกันปีที่ 5 ของไทย 

           เดือนธ.ค. 2562 ไทยส่งออกสินค้าอยู่ที่ 19,154 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว 1.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกสำคัญที่หดตัวสูงในเดือนธ.ค. 2562 ได้แก่ ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ รวมถึงสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันอย่างเคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปจีนและสหรัฐฯ กลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเดือนธ.ค. 2562 ที่ 7.3% YoY และ 15.6% YoY ตามลำดับ ซึ่งน่าจะเป็นผลของปัจจัยชั่วคราว โดยการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ขยายตัวดีในเดือนธ.ค. 2562 ส่วนหนึ่งมาจากฐานการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบที่ต่ำในปีก่อน และสำหรับการส่งออกสินค้าไปจีนขยายตัวดีในเดือนธ.ค. 2562 นั้น ส่วนหนึ่งเพราะมีการเร่งนำเข้าสินค้าบางรายการก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนเดือนม.ค. 2563 อีกทั้ง การส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้งไปจีน ขยายตัวสูงถึง 110.01% YoY ซึ่งมาจากการนำเข้าลำไยและทุเรียนที่เพิ่มขึ้นของจีนเป็นสำคัญ 

           ​ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยปี 2563 จะยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ที่ -1.0 YoY% โดยให้น้ำหนักกับเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ของประเทศคู่แข่ง ในขณะที่ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนแม้จะคลายความตึงเครียดลงบ้าง แต่ก็คงไม่ได้เปลี่ยนภาพการค้าโลกในปี 2563 อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเงื่อนไขความตกลงทางการค้าเฟสแรกเป็นการลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพียงบางส่วนเท่านั้น ทำให้ปี 2563 สินค้าจีนส่วนใหญ่ยังคงเผชิญอัตราภาษีที่ไม่แตกต่างจากปีก่อนหน้ามากนัก



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest