Display mode (Doesn't show in master page preview)

21 ตุลาคม 2562

Econ Digest

ราคาทองยืนสูง ซ้ำเติมบาทแข็ง

คะแนนเฉลี่ย
​​           เงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องสร้างความกังวลต่อธุรกิจส่งออกและการท่องเที่ยวในประเทศ โดยตั้งแต่ต้นปี 2562 เงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นแล้ว 7.4% และเป็นการแข็งค่าเมื่อเทียบกับทั้งสกุลเงินคู่ค้าและสกุลเงินคู่แข่ง ทั้งนี้ ความกังวลได้เพิ่มมากขึ้น เมื่อค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องไปถึงปีหน้า เพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังมีทิศทางอ่อนค่า ตราบเท่าที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงอย่างมากจากความไม่แน่นอนเรื่องสงครามการค้า และ Brexit ที่ยังไม่ผ่อนคลาย

            ทั้งนี้ แม้ว่าต่างชาติมีการขายสุทธิในตลาดพันธบัตรและตลาดหลักทรัพย์ไทย แต่การเกินดุลการค้าในระดับสูง ซึ่งกว่าครึ่งมาจากการค้าทองคำเป็นแรงหนุนให้เงินบาทแข็งค่า โดยการเกินดุลทองคำในระดับสูงนี้น่าจะปรากฎต่อไปอีกระยะหนึ่ง ตราบเท่าที่ราคาทองคำในตลาดโลกยังขยับขึ้นต่อเนื่องตามความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก
 
             ​ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ทิศทางราคาทองคำขึ้นอยู่กับทิศทางดอกเบี้ยของเฟด โดยจุดเปลี่ยนคงอยู่ที่มุมมองของเฟดต่อความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ สะท้อนจากสัญญาณการยุติการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ซึ่งอย่างเร็วที่สุดคาดว่าจะเกิดในช่วงไตรมาส 1/2563 จากนั้นแรงกดดันต่อราคาทองคำคงทยอยลดลง และจะช่วยลดแรงกดดันค่าเงินบาทจากการเกินดุลการค้าทองคำที่ลดลง อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาด โดยความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยยังมีอยู่สูง เฟดคงต้องดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายโดยการปรับลดดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ราคาทองคำอยู่ในระดับสูงยาวนานขึ้น ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest