Display mode (Doesn't show in master page preview)

6 พฤษภาคม 2566

Econ Digest

เฟดปรับขึ้น...ดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ไปที่ระดับ 5.00-5.25% คาดกระทบต่อเศรษฐกิจไทยผ่านทางการส่งออกให้ชะลอตัวลงกว่าเดิม

คะแนนเฉลี่ย

​        จากการประชุม FOMC วันที่ 2-3 พค ที่ผ่านมา เฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 ตามคาด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขยับมาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% พร้อมทั้งส่งสัญญาณหยุดขึ้นดอกเบี้ย โดยใน statement ไม่มีการระบุว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเป็นนโยบายที่เหมาะสมดังเช่นในการประชุมครั้งก่อน อย่างไรก็ดี เฟดมองว่าทิศทางนโยบายการเงินในระยะข้างหน้ายังขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ออกมาหรือ data-dependent เป็นหลัก ซึ่ง ณ ขณะนี้เฟดยังไม่มองการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากเฟดมองว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะใช้เวลาที่จะปรับลดลงมาสู่ระดับเป้าหมาย ในขณะเดียวกันเฟดก็ยังไม่ปิดความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในระยะข้างหน้า

​        สำหรับประเด็นปัญหาธนาคารสหรัฐฯ เฟดยังมีมุมมองเหมือนในการประชุมครั้งก่อนว่าระบบการธนาคารของสหรัฐนั้นยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่สินเชื่อที่ตึงตัวขึ้นจากปัญหาดังกล่าวคงจะส่งผลกระทบต่อไปยังกิจกรรมทางเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า และส่งผลให้ความจำเป็นที่เฟดจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อนั้นมีน้อยลง

​        สำหรับผลกระทบต่อไทย การส่งสัญญาณหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดคงช่วยลดแรงกดดันต่อกนง. โดยคาดว่ากนง. จะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในการประชุมในวันที่ 31 พค นี้ อย่างไรก็ดี การส่งสัญญาณไม่ปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ของเฟดสะท้อนมุมมองของเฟดที่ยังคง hawkish อยู่ ซึ่งการที่ดอกเบี้ยสหรัฐฯ คาอยู่ในระดับสูงคงส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงและอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยบางไตรมาสในปีนี้ และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยผ่านทางการส่งออกให้ชะลอตัวลงกว่าเดิม สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท การส่งสัญญาณหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าลง อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทในระยะข้างหน้ายังคงมีแนวโน้มที่จะเผชิญความผันผวนอยู่ตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงของไทยที่ออกมา อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนจากประเด็นการเลือกตั้งที่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

 


Click
 ชมคลิป เฟดปรับขึ้น...ดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ไปที่ระดับ 5.00-5.25% คาดกระทบต่อเศรษฐกิจไทยผ่านทางการส่งออกให้ชะลอตัวลงกว่าเดิม

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest