กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และการกลับมาใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้านมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกรรมออนไลน์ที่เคยเร่งตัวอย่างก้าวกระโดดในช่วงการระบาดของโควิดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มชะลอหรือหดตัวลง ซึ่งรวมไปถึงธุรกิจ Food Delivery หรือการจัดส่งอาหารไปยังที่พัก สะท้อนผ่านข้อมูลเครื่องชี้ธุรกิจการส่งอาหารในช่วงไตรมาส 1 ปี 66 อ้างอิงจาก LINE MAN Wongnai ที่ให้ภาพชะลอตัว ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ในไตรมาสที่ 2 ปริมาณการใช้บริการ Food Delivery น่าจะหดตัวเล็กน้อยจากไตรมาสแรก แม้ตลาดจะได้รับปัจจัยหนุนจากวันหยุดยาวหลายช่วง การปิดภาคเรียน และการทำงานแบบ Hybrid Working ของบางองค์กร โดยคาดว่าปริมาณการใช้บริการในช่วงครึ่งแรกปี 66 น่าจะหดตัวราว 8.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 65 ซึ่งเป็นการปรับสมดุลตามบริบทและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปริมาณการใช้บริการ Food Delivery อาจจะชะลอลง ผู้ประกอบการร้านอาหารน่าจะได้ยอดขายจากช่องทางหน้าร้านมากขึ้น ตามการกลับมารับประทานอาหารนอกบ้านของผู้บริโภคและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ทว่าด้วยสภาวะการแข่งขันในตลาดที่มีผู้ประกอบการจำนวนมากและหลากหลาย ประกอบกับต้นทุนธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ แรงงานและค่าเช่า ที่ยังอยู่ในระดับสูงหรือปรับตัวสูงขึ้น ทำให้รายได้จากช่องทาง Food Delivery ยังคงมีความสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และกระจายความเสี่ยงสำหรับผู้ประกอบการ ขณะที่ในฝั่งของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการจัดส่งอาหาร น่าจะมีการรับรู้และเตรียมรับมือกับทิศทางการปรับตัวของตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว เห็นได้จากการปรับและกระจายพอร์ตธุรกิจไปเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น รวมถึงการขยายขอบเขตการให้บริการไปยังกลุ่มธุรกิจประเภทอื่น อย่างการทำการตลาดและโฆษณา ธุรกิจท่องเที่ยว และการเงิน เป็นต้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า แม้ช่องทาง Food Delivery จะยังมีความสำคัญต่อทั้งร้านอาหารและผู้บริโภค แต่การรักษาปริมาณการสั่งอาหาร การรักษาคุณภาพการให้บริการที่สะท้อนถึงความคุ้มค่า และการมุ่งเป้าที่จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไร จะยังเป็นโจทย์ที่ท้าทายท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่อง
|
Click ชมคลิป
ธุรกิจ Food Delivery อิ่มตัวแล้วหรือไม่? เมื่อผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น |
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น