Display mode (Doesn't show in master page preview)

8 ธันวาคม 2563

Econ Digest

5 คำถาม กับนักลงทุนทองคำมือใหม่

คะแนนเฉลี่ย

        ทองคำ เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในปี 2563 ที่ผ่านมา โดยหากเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว ราคาทองคำ Spot ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้วถึง 21% มาอยู่ที่ 1840 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ณ วันที่ 4 ธ.ค. 2563 ขณะที่ราคาทองคำในประเทศขยับขึ้นมา 22% มาที่ 26,250 บาทต่อบาททองคำ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่สนใจลงทุนในทองคำ 5 คำถามที่ควรทำความเข้าใจก่อนจะตัดสินใจลงทุน ประกอบด้วย

Q: ทิศทางเงินดอลลาร์ฯ มีผลกับราคาทองอย่างไร?

A: การเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ฯ มักเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับราคาทองคำ เนื่องจากสัญญาทองคำมักทำการซื้อ-ขาย (มีการ Quote ราคา) ในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้นเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าลงจึงจูงใจให้นักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ ลงทุนในสัญญาทองคำเพิ่มขึ้น  

Q: เหตุใดทองคำจึงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย?

A: ทองคำมีคุณลักษณะเข้าเงื่อนไขหลายอย่างของสินทรัพย์ปลอดภัย หรือ Safe-haven asset โดยเฉพาะ 2 ลักษณะเด่น คือ ทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่สามารถสะสมมูลค่าได้ และภายใต้สภาวะตลาดปกติ ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับสินทรัพย์เสี่ยง ดังนั้นนักลงทุนจึงมักกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนด้วยการกระจายน้ำหนักลงทุนในทองคำด้วยเช่นกัน

Q: ทองคำปลอดภัย แต่ทำไมราคาทองคำจึงผันผวน?

A: นอกจากจะมีการใช้ทองคำในแวดวงอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ทองคำยังเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ทางเลือกเพื่อกระจายการลงทุนของนักลงทุน และยังเป็นทุนสำรองของธนาคารกลางหลายๆ ประเทศ ดังนั้นราคาทองคำจึงปรับตัวขึ้น-ลงตามกลไกและพลังของผู้เล่นในตลาด ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล (เช่น เทศกาลตรุษจีน และเทศกาลดิวาลีของอินเดีย) รวมถึงปัจจัยสำคัญอื่นๆ เช่น ทิศทางเงินดอลลาร์ฯ และความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ หากใช้วิธีทางสถิติมาคำนวนค่าความผันผวนของทองคำ จะพบว่า ค่าความผันผวนของทองคำในปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.5% สูงกว่าความผันผวนในปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 11.4%

Q: ใครคือขาใหญ่ในตลาดทองคำโลก?

A: จากข้อมูลของสภาทองคำโลก (World Gold Council: WGC) หากไม่นับรวมการถือครองทองคำของกองทุน ETF ทั่วโลกซึ่งมีรวมกันอยู่ประมาณ 3.9 พันตันแล้ว ผู้ถือครองทองคำรายใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญ ก็คือ บรรดาธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ที่ทยอยซื้อทองคำเข้าทุนสำรอง อาทิ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีอยู่ 8.1 พันตัน  เยอรมนี 3.4 พันตัน อิตาลี 2.5 พันตัน ฝรั่งเศส 2.4 พันตัน รัสเซีย 2.3 พันตัน และ จีน 1.9 พันตัน ขณะที่ไทยมีอยู่ที่ 154 ตัน ดังนั้นแล้วแรงซื้อ-ขายทองคำของผู้เล่นเหล่านี้ย่อมมีผลต่อราคาทองคำอย่างยากจะหลีกเลี่ยง เช่น แรงขายสุทธิจากธนาคารกลางบางประเทศที่เป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาส 3/2563 ที่ผ่านมา

Q: ปัจจัยสำคัญไหนบ้างที่ต้องติดตามใกล้ชิด เพราะจะมีผลต่อแนวโน้มราคาทองคำในระยะข้างหน้า?

A: ปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อทิศทางราคาทองคำในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้ามีอยู่หลายปัจจัย โดยในฝั่งปัจจัยลบหลักๆ จะเป็นเรื่องสัญญาณความสำเร็จของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ขณะที่ปัจจัยบวกจะอยู่ที่แรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ฯ จากผลของมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งสำหรับนักลงทุนมือใหม่ควรติดตามปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิด

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest