Display mode (Doesn't show in master page preview)

5 กันยายน 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

​ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
  สถานการณ์ BREXIT หลังจากที่รัฐสภาอังกฤษอนุมัติร่างกฎหมายเพื่อป้องกันการถอนตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค. ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดอาจยังรอความคืบหน้าของการกลับมาเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน



เงินบาทตลาดในประเทศแข็งค่าขึ้นวานนี้ (4 ก.ย.) สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยลบจากข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด 
ส่วนเช้าวันนี้ (5 ก.ย.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 30.53-30.56 บาทต่อดอลลาร์ฯ**


ตลาดหุ้นไทยปิดบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับปัจจัยต่างประเทศ
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดบวก โดยปัจจัยบวกที่หนุนให้ตลาดปรับขึ้นในภาพรวม ได้แก่ ข้อมูลภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนที่ขยายตัวต่อเนื่องซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า สถานการณ์ฮ่องกงที่เริ่มคลี่คลาย รวมถึงความเสี่ยงที่ลดลงของโอกาสการเกิด Brexit แบบไร้ข้อตกลง ​




ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลภาคบริการของจีนที่ออกมาดีกว่าที่คาด ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่า สถานการณ์ในฮ่องกงอาจจะคลี่คลายลงหลังจากนี้ ขณะที่ราคาทองคำเพิ่มขึ้น ขณะที่แรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ ลดลงบางส่วน


ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.                             

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest