Display mode (Doesn't show in master page preview)

8 สิงหาคม 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

​​ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:

  ประเด็นข้อพิพาทการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าทำเนียบขาวเตรียมออกคำสั่งห้ามหน่วยงานภาครัฐทำธุรกิจกับบริษัทจีนหลายแห่ง รวมถึงประเด็นความเสี่ยง BREXIT ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญวันนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/62 ของญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูลการส่งออก ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ค. ของจีน




เงินบาทตลาดในประเทศอ่อนค่าลงเล็กน้อยวานนี้(7 ส.ค.) หลังกนง. มีมติปรับล​ดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาที่ 1.50

เหนือการคา​ดการณ์ของตลาด

ส่วนเช้าวันนี้ (8 ส.ค.) เงินบาทแข็งค่ากลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับประมาณ 30.74 บาทต่อดอลลาร์ฯ** ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงกดดัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินเยน และเงินฟรังก์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางหลายปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก​





ตลาดหุ้นไทยปิดลบ โดยมีแรงฉุดจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังกนง.มีมติปรับลดดอกเบี้ย และหุ้นกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลง

ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน โดยรวมตลาดฝั่งเอเชียปิดลบจากความกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยช่วงท้ายตลาด ช่วยลดช่วงลบของดัชนี DJIA และหนุนดัชนี NASDAQ ให้ปรับตัวขึ้น 



ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง สวนทางราคาทองคำที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของ EIA ที่ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางตัวเลขคาดการณ์ของตลาด ​​


มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.                             

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest