ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
ประเด็นข้อพิพาทการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าทำเนียบขาวเตรียมออกคำสั่งห้ามหน่วยงานภาครัฐทำธุรกิจกับบริษัทจีนหลายแห่ง รวมถึงประเด็นความเสี่ยง
BREXIT
ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญวันนี้ ได้แก่
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/62 ของญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูลการส่งออก
ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ค. ของจีน
เงินบาทตลาดในประเทศอ่อนค่าลงเล็กน้อยวานนี้(7 ส.ค.) หลังกนง. มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาที่ 1.50%
เหนือการคาดการณ์ของตลาด
ส่วนเช้าวันนี้ (8 ส.ค.) เงินบาทแข็งค่ากลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับประมาณ 30.74 บาทต่อดอลลาร์ฯ** ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงกดดัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินเยน และเงินฟรังก์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางหลายปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ
โดยมีแรงฉุดจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังกนง.มีมติปรับลดดอกเบี้ย และหุ้นกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลง
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน
โดยรวมตลาดฝั่งเอเชียปิดลบจากความกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ขณะที่
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยช่วงท้ายตลาด ช่วยลดช่วงลบของดัชนี
DJIA
และหนุนดัชนี
NASDAQ ให้ปรับตัวขึ้น
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง สวนทางราคาทองคำที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ท่ามกลางความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของ
EIA
ที่ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางตัวเลขคาดการณ์ของตลาด
มา:
ธปท.,
Bisnews, www.bloomberg.com
รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หมายเหตุ:
*อัตราอ้างอิงจากธปท. **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น