Display mode (Doesn't show in master page preview)

19 กันยายน 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

​ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
  การตอบรับของตลาดต่อผลการประชุมเฟด ความคืบหน้าประเด็นการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน สถานการณ์ BREXIT รวมถึงผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางอินโดนีเซีย และธนาคารกลางอังกฤษ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนก.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์



เงินบาทตลาดในประเทศ แม้ขยับแข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อยวานนี้ (18 ก.ย.) แต่ภาพรวมความเคลื่อนไหวยังเป็นกรอบแคบๆ  เนื่องจากนักลงทุนอยู่ระหว่างรอประเมินสัญญาณดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จากผลการประชุมเฟด

ส่วนเช้าวันนี้ (19 ก.ย.) เงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 30.54-30.56 บาทต่อดอลลาร์ฯ เนื่องจากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า หลังมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดดอกเบี้ยลงมาที่กรอบ 1.75-2.00% ในการประชุมวานนี้​




ตลาดหุ้นไทยปิดลบ โดยมีแรงฉุดจากหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ประกอบกับมีแรงเทขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันและกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน โดยภาพรวมตลาดหุ้นฝั่งเอเชียเผชิญแรงเทขายทำกำไรก่อนรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารการสหรัฐฯ (เฟด) ทั้งนี้ ในเวลาต่อมาเฟดมีมติปรับลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปะปนเช่นเดียวกัน ​



ราคาน้ำมันตลาดโลกร่วงลงเป็นวันที่สองติดตอกัน หลังจากรมว. พลังงานของซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า กำลังการผลิตน้ำมันฟื้นกลับมาเป็นปกติแล้ว และผลผลิตจะเข้าสู่ตลาดได้ภายในสิ้นเดือนก.ย. ส่วนราคาทองคำลดลง สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น หลังผลการประชุมเฟด   ​


ที่ม: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.                             

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest