ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
สัญญาณดอกเบี้ยและทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากสุนทรพจน์ของประธานเฟดในคืนนี้ ส่วนความคืบหน้าล่าสุดของข้อพิพาททางการค้าสหรัฐฯ-จีนนั้น ทางการจีนออกมาย้ำอีกครั้งว่า จะออกมาตรการตอบโต้แม้จะไม่ระบุถึงรายละเอียดเพิ่มเติมก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามสถานการณ์ BREXIT รวมถึงการรายงานตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. และข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ โดย Baker Hughes
เงินบาทตลาดในประเทศทรงตัวในกรอบแคบ (22 ส.ค.)
ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามปัจจัยใหม่ๆ มากระตุ้นโดยเฉพาะสุนทรพจน์ของประธานเฟด ซึ่งอาจสะท้อนสัญญาณของดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า
ส่วนเช้าวันนี้ (23 ส.ค.) เงินบาทยังเคลื่อนไหวใกล้ๆ ระดับ 30.78-30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ**
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ
ตามแรงเทขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขณะที่นักลงทุนรอความชัดเจนของปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน
โดยรวมตลาดหุ้นฝั่งเอเชียเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ระหว่างรอถ้อยแถลงของประธานเฟด อย่างไรก็ดี
ตลาดหุ้นฮ่องกง
ถูกฉุดจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการประท้วงที่ยืดเยื้อ ขณะที่
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปะปน โดยแม้ DJIA
จะปรับขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นบริษัท
Boeing
แต่บรรยากาศในภาพรวมถูกฉุดจากความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังดัชนี
PMI
ภาคการผลิตเดือนส.ค. สะท้อนภาวะหดตัว
ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลง ท่ามกลางความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก
ส่วนราคาทองคำลดลง
ขณะที่นักลงทุนรอติดตามสุนทรพจน์ของประธานเฟดในคืนนี้
ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท. **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น