Display mode (Doesn't show in master page preview)

6 ตุลาคม 2564

Econ Digest

อนาคต..."กระท่อม"

คะแนนเฉลี่ย


         การปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 ได้สร้างกระแสความสนใจให้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างทั้งในฝั่งของผู้ผลิตและผู้บริโภค นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นผลิตภัณฑ์กระท่อมทยอยจำหน่ายออกสู่ตลาดในปี 2565   หลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือ อย. อนุญาตให้ยื่นใบอนุญาตในการผลิตผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อม   ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าในระยะแรก ความสำเร็จของภาพรวมธุรกิจกระท่อมคงไม่ใช่เรื่องง่าย และคงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการเป็นสำคัญภายใต้อุปทานที่มีจำกัด จึงถือว่าเป็นช่วงทดสอบตลาดผู้บริโภค โดยผู้ปลูกที่มีผลผลิตพร้อมขายจะได้รับประโยชน์ผ่านการขายใบกระท่อมสดที่มีราคาค่อนข้างสูงราว 250-350 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 64 (ก.ย.-ธ.ค.) รายได้เกษตรกรอาจอยู่ที่ราว 9,000-12,000 บาทต่อไร่ต่อเดือน ซึ่งเป็นเพียงการประเมินตัวเลขปัจจุบันในเบื้องต้นเท่านั้น เพราะต้องขึ้นอยู่กับการตอบรับของอุตสาหกรรมกลางน้ำและปลายน้ำที่ใช้กระท่อมเป็นวัตถุดิบเป็นสำคัญ   ซึ่งหากตลาดผู้บริโภคให้การตอบรับดีในระยะแรกก็อาจจูงใจให้มีผลผลิตกระท่อมที่ปลูกใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้นในระยะ 3 ปีข้างหน้า   ทั้งนี้ เกษตรกรที่สนใจหันมาลงทุนปลูกต้นกระท่อม คงต้องมีการวางแผนเพื่อตัดสินใจในการปลูกอย่างรอบคอบ เพราะนอกจากการตอบรับความต้องการในระยะแรกแล้ว ยังมีเงื่อนไขสำคัญคือเงินลงทุนในการเริ่มปลูก เงินทุนหมุนเวียนระหว่างรอเก็บเกี่ยวผลผลิต ระยะเวลาคืนทุน และความเสี่ยงของราคาขายที่จะได้รับ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมปลายน้ำที่กระท่อมสามารถมีโอกาสเข้าไปทำตลาดได้จะมีแนวโน้มเติบโตทั้งในและต่างประเทศในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยา อาหารเสริม และเครื่องสำอาง แต่ก็นับว่ายังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก เพราะยังอยู่ในช่วงทดสอบตลาดในปัจจุบัน ซึ่งหากตลาดไม่มีการตอบรับที่ดี  ก็อาจส่งผลกระทบต่อภาพการผลิตกระท่อมต้นน้ำได้ สำหรับในแง่การส่งออก นับว่ายังมีความไม่แน่นอนเช่นกัน เพราะผู้ประกอบการปลายน้ำที่ใช้กระท่อมเป็นวัตถุดิบต่างต้องสร้างการรับรู้ในสินค้าซึ่งเป็นสินค้าใหม่และหาฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่ม รวมถึงประเด็นเรื่องสามารถแข่งขันได้ทั้งในด้านราคาและคุณภาพเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ทดแทนอื่นๆ ในตลาด รวมถึงคู่แข่งหลักที่มีผลผลิตกระท่อมอย่างอินโดนีเซีย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ความต้องการของผลิตภัณฑ์ปลายน้ำที่ใช้กระท่อมเป็นวัตถุดิบ จะเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดความต้องการใช้กระท่อมสด และมีผลต่อทิศทางราคากระท่อมสด ตลอดจนผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกกระท่อมในอนาคต

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest