Display mode (Doesn't show in master page preview)

13 มีนาคม 2563

Econ Digest

เงินเฟ้อไทย ปี 63... อาจติดลบ หากราคาน้ำมันดิบโลกร่วงยืดเยื้อ

คะแนนเฉลี่ย

​          การเจรจาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติมระหว่างกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ (OPEC+) ประสบความล้มเหลวในการประชุม วันที่ 6 มี.ค. 2563 ในขณะที่ข้อตกลงเดิมกำลังจะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค. 2563 ดังนั้น ซาอุดีอาระเบียจึงตัดสินใจประกาศลดราคาน้ำมันดิบซื้อขายล่วงหน้าในเดือนเม.ย. บาร์เรลละ 6-8 ดอลลาร์ฯ แก่ประเทศคู่ค้า ทำให้ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็ว เพื่อผลักดันให้เกิดการเจรจาปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมระหว่างกลุ่ม OPEC+

           ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า สถานการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นปัจจัยชั่วคราวที่กดดันราคาน้ำมันดิบโลก เพราะราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงสูงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้ความต้องการบริโภคน้ำมันลดลงอยู่แล้ว ไม่เป็นผลดีกับทั้งประเทศที่มีต้นทุนการผลิตน้ำมันที่สูงกว่าซาอุดีอาระเบีย หรือซาอุดีอาระเบียเอง อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่กำหนดสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลกในปี 2563 ยังอยู่ที่เวลาในการบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหม่ของกลุ่มประเทศ OPEC+

            ทั้งนี้ หาก OPEC+ สามารถบรรลุข้อตกลงใหม่ได้ภายในเดือนมี.ค. จะทำให้ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในระดับต่ำราว 1-2 เดือน ซึ่งอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2563 ลดลงไปอยู่ที่ 0.2% จากปัจจุบันที่ 0.4% แต่หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใหม่ได้ภายในเดือนมี.ค. นี้ จะทำให้ในเดือนเม.ย. กลุ่ม OPEC+ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบได้อย่างเสรี อาจทำให้อุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบโลกเคลื่อนไหวในระดับต่ำเกิน 3 เดือน อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อไทยปี 2563 ติดลบ อย่างไรก็ดี การประเมินผลกระทบของสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลกต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อไทยปี 2563 ยังอยู่ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่อาจจะทำให้ราคาสินค้าบางอย่างปรับตัวสูงขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมเงินเฟ้อไทย ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อใช้ประเมินภาพรวมทิศทางเงินเฟ้อไทยในระยะต่อไป

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest